“เพื่อไทย” จี้รัฐเร่งแก้ราคาน้ำมัน หลังธุรกิจขนส่งเตรียมขยับราคา หวั่นสินค้าอุปโภค-บริโภคแพง ซ้ำเติมทุกข์ชาวบ้าน

นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนพุ่งสูงขึ้นทุกด้าน จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลต่อไปยังราคาสินค้าอุปโภค บริโภค พุ่งสูง ค่าครองชีพในภาพรวมจะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย เคราะห์ซ้ำค่าทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ ที่จะปรับขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ 15-35 บาทต่อเที่ยว ค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสสายหมอชิต อ่อนนุช และสายสีลม สนามกีฬาแห่งชาติ สะพานตากสิน ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมสถานีละ 1-3 บาท ทั้งหมดคนที่ต้องรับกรรมคือประชาชน

นางสาวอรุณี กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือการซ้ำเติมทุกข์ชาวบ้าน ประชาชนบางส่วนตกงานรายได้ไม่พอรายจ่าย รัฐบาลกลับไม่เคยเหลียวแลประชาชน ไม่เคยรู้ถึงความลำบากนี้ มองปัญหาเป็นเรื่องไกลตัว ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนนิ่งเฉยกับปัญหา แต่กลับสร้างมายาคติหลอกประชาชนด้วยการออกมาตรการช่วยค่าครองชีพต่างๆ ซึ่งเป็นเพียงการให้ปลากับประชาชน แต่สอนประชาชนหาปลาไม่เป็น เงินเท่าไหร่ก็ไม่พอและไม่เป็นผล เพราะต้นตอของปัญหาคือพลเอกประยุทธ์ ที่บริหารประเทศไม่เป็นแต่ยังฝืน ซึ่งทางออกรัฐควรเร่งแก้ราคาน้ำมันโดยด่วนให้ต่ำกว่านี้ และควรใช้สติปัญญาคิดและทบทวนใหม่ เช่น ควรนำงบ 54,000 ล้านบาท ที่ออกมาตรการลดค่าครองชีพ เช่นคนละครึ่ง หรือยิ่งใช้ยิ่งได้ มาตรึงราคาสินค้าที่มีผลต่อค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งจะเป็นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่ามากกว่าอัดฉีดเม็ดเงินไปอย่างไม่ตรงจุด หรือหากพลเอกประยุทธ์ ลองเปิดใจลองฟังแนวคิดของพี่โทนี ที่เคยเสนอดูบ้างในหลายด้าน จะช่วยแก้ปัญหาและรับมือกับวิกฤตต่างๆ ได้

“พลเอกประยุทธ์ ยิ่งอยู่คนไทยยิ่งจน รายได้คนจน 99% เมื่อเทียบกับคนรวย 1% นับวันยิ่งห่างไกลกัน รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลขาขึ้น คือราคาสินค้าแพงขึ้นทุกอย่าง แต่ที่ตกต่ำคือชีวิตของประชาชน” นางสาวอรุณีกล่าว