ส.ส. อีสานเพื่อไทยแทคทีมขอรัฐบาลใช้กลไก ก.ศึกษา – ดีอีเอส ให้ความรู้ สร้างความเท่าเทียม คุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามรัฐธรรมนูญ เหตุคลับเฮาส์ท็อกซิคยังจัดต่อเนื่อง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค และส.ส.พรรคเพื่อไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีมีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคนอีสานในโซเชียลมีเดีย โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า ส.ส.ในภาคอีสานของพรรคเพื่อไทย ได้แสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวางและมีข้อสรุปร่วมกัน 2 ประการ ได้แก่

1.ส.ส.อีสานของพรรคเพื่อไทยเคารพในหลักสิทธิ เสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนจะต้องได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันทุกคนในพรรคยังเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นคนภาคไหน ทุกคนล้วนมีคุณค่าความเป็นคนโดยสมบูรณ์ ทั้งหมดคือหลักการที่เรายึดถือ

2.การแสดงความคิดเห็นในคลับเฮาส์ที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ประชาชนชาวอีสานกังวลใจ จนนำมาบอกกล่าวให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทราบ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นว่า ในฐานะสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนคนไทยทุกคนจึงมีความเป็นห่วง และต้องการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชน ป้องกันความแตกแยกลุกลามในหมู่ประชาชน

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่อยากให้สังคมตระหนักคือรัฐบาลมีหน้าที่คุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดูแล ไม่ปล่อยปละละเลย ป้องปราม และทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ท่ามกลางความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติในสังคม ทั้งนี้การปะทะทางความคิดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมีผลกระทบ หากรัฐบาลเมินเฉยอาจเป็นส่วนส่งเสริมให้เกิดผลกระทบเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีกลไกในการแก้ไขปัญหาได้ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และกระทรวงศึกษาธิการ ควรให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ เสริมวุฒิภาวะให้กับเยาวชน และผู้ปกครองช่วยสอดส่องดูแล แต่ไม่ใช่การคุกคาม แต่อยากให้ใช้วิธีการที่เหมาะสม เช่น กรณีเด็ก-เยาวชน ใช้ความเมตตาและทำความเข้าใจ หากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดข้อมูล สามารถใช้กลไกกระทรวงศึกษาให้ความรู้ความเข้าใจได้ หากคึกคะนอง หรือภาวะด้านสุขภาพจิต อาจใช้กลไกกรมสุขภาพจิต แต่หากเป็นผู้ใหญ่ ก็ต้องให้ความสำคัญตามลำดับขึ้นไป

นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.อีสานถึง 84 คน อยากใช้โอกาสนี้ยืนยันว่าการกล่าวหาคนอีสานตามกรณีดังกล่าว เกิดจากความไม่เข้าใจอีสานอย่างสิ้นเชิง มีข้อมูลอีกด้านที่ไม่ถูกต้อง พร้อมชี้ให้เห็นว่าทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน อยากให้ทุกคนรักกัน และจับมือกันมุ่งสู่เป้าหมายนำประชาธิปไตยสู่ประเทศไทย

นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะ ส.ส. อีสาน อยากใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส ท้องถิ่นอีสานยังมีความภาคภูมิใจอีกมากมายทั้งด้านกีฬา พระพุทธศาสนา และความเจริญรุ่งเรืองทางประวัติศาสตร์ มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะช่วยให้คนอีสานและคนไทยทั้งประเทศอยู่ดีกินดี เจริญขึ้นได้ทุกด้าน