25ส.ค.54 ยิ่งลักษณ์ติด Top 100 สตรีทรงอิทธิพลของโลก

10 ปีที่แล้ว ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมือง ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับประเทศและประชาชนไทย อีกทั้งการที่ประเทศไทยมีผู้นำหญิงเป็นคนแรกยังเป็นที่จับตามองจากนานาชาติ
.
25 สิงหาคม 2554 นิตยสารฟอร์บส์จัดอันดับ 100 สตรีทรงอิทธิพลของโลก (The Most Powerful Women) ประจำปี 2011 ทั้งจากวงการบันเทิง วงการธุรกิจ วงการธนาคาร ไอที เทคโนโลยี หรือนักกิจกรรมเพื่อสังคม โดยได้ทำการคัดสรรผู้หญิงจากหลากหลายวงการ ผ่านความรู้ความสามารถ ความนิยม และยอดจำนวนผู้ติดตามบนโลกโซเชียลมีเดียในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
.
#ณวันนั้น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ลำดับที่ 59 โดยฟอร์บส์ให้เหตุผลว่า “นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ดูแลประชากรทั้งประเทศมากถึง 67 ล้านคน และดูแลเศรษฐกิจประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถสร้างสันติภาพระหว่างขั้วการเมืองต่างสีได้ มีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาความรุนแรงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศ ผ่านการเชิญมาเลเซียมาเป็นพยานในการไกล่เกลี่ยระหว่างสองฝ่าย” หลังจากนั้น ในปี 2012 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 31 จาก 100 ผู้หญิงทั่วโลก
.
จากรายชื่อ 100 สตรีทรงอิทธิพลของโลก ณ วันนั้น ประกอบไปด้วยผู้หญิงที่มีความสามารถโดดเด่น หรือสร้างประโยชน์เพื่อสังคม ในแต่ละสาขานั้นๆ เช่น สมเด็จราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ (49) ออง ซาน ซูจี (26) บียอนเซ่ (18) โอปราห์ วินฟรีย์ (14) มิเชล โอบามา (😎 โซเนีย คานธี หัวหน้าพรรครัฐบาลอินเดียในขณะนั้น (6) ดิลมา รุสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีบราซิลในขณะนั้น (3) ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ในขณะนั้น (2) และอันดับ 1 ได้แก่ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แองเกลลา แมร์เคิล โดยปี 2018 ฟอร์บส์ระบุว่า แมร์เคิลครองตำแหน่งสตรีทรงอิทธิพลของโลกอันดับ 1 มาตลอด 14 ปี
.
จากภาพการพบกันระหว่างสองนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งเดินทางเยือนประเทศในยุโรปอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 17-19 กรกฎาคม 2555 ถือเป็นการเยือนในปีแห่งการฉลองวาระครบรอบ 150 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเยอรมนี เป็นการพบกันครั้งแรกหลังจากที่มีการว่างเว้นการเยือนระดับผู้นำของไทยเป็นเวลานานถึง 17 ปี
.
และหลังจากนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งถูกรัฐประหาร ประเทศไทยก็ไม่เคยมีภาพเช่นนี้บนเวทีนานาชาติอีกเลย

อ้างอิง:

https://www.forbes.com/…/the-worlds-most-powerful…/…https://www.forbes.com/profile/yingluck-shinawatra/…https://www.bangkokpost.com/…/yingluck-30th-of-world…https://www.thairath.co.th/content/196786https://bit.ly/3BczQjL