“คนจนหมดประเทศแน่” จิรายุ ชี้สิ้นปีนี้หมดโปรแจกกระจายของรัฐบาล คนไทยเตรียมจนเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลเตรียมนำวาระขอเพิ่มเพดานกู้เข้าสภาขึ้นชั้นนักกู้แห่งมหาเอเชียบูรพา
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีนโยบายของรัฐบาลในช่วงสองปีที่ผ่านมาว่า ตนยังไม่เคยเห็นว่ารัฐบาลนี้จะทำอะไรที่สามารถหาเงินเข้าประเทศหรือทำให้เกิดแรงกระตุ้นในการบริโภคภายในประเทศอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม เนื่องจากในไตรมาสที่สองของปีนี้ประเทศมีหนี้สินครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นถึง 5% เมื่อเปรียบเทียบจากไตรมาสก่อนที่มีแค่ 4.7% หรือคิดเป็นสัดส่วน 89.3% ต่อจีดีพีแต่รัฐบาลชุดนี้ มีแต่การแจกๆๆ แล้วก็กู้ๆๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนมีความกังวลว่าหากหมดโปรแจกกระจายของรัฐบาลรับรองว่าคนไทยจนกระจายแน่ เนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานไม่มีทีท่าว่าจะกระเตื้องขึ้นมา ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้หากหมดมาตรการการแจกของรัฐบาลแล้วจะทำให้สัดส่วนของคนจนของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 20% เพราะคาดการณ์ว่าในปีหน้ารัฐบาลจะเข้าสู่ภาวะบักโกรกไส้แห้งถังแตกตูดขาดอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ รัฐบาลเตรียมนำเรื่องขอเพิ่มเพดานเงินกู้ จาก60 เป็น70% เข้าพิจารณาต่อรัฐสภา ในต้นเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้มีวงเงินที่จะกู้ได้เพิ่มอีก 5 แสนล้าน ทั้งๆ ที่รัฐบาลคสช. ของพลเอกประยุทธ์ ออกกฎหมายล็อกไว้เพื่อเก็บไว้สั่งสอนรัฐบาลที่ไม่มีวินัยทางการคลัง แต่สุดท้ายก็เป็นรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ เองที่ต้องโดนสั่งสอนด้วยวินัยการเงินการคลัง เพราะต้องขอเพิ่มเพดานเงินกู้ให้คนไทยทั้งประเทศได้สมใจเป็นหนี้พร้อมกันทั้งประเทศ
นายจิรายุกล่าวต่อไปว่าในปีหน้าสถานการณ์เศรษฐกิจต้นปีของประเทศไทยจะดิ่งเหวเนื่องจากนโยบายรัฐบาลในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น มุ่งแต่ใช้จ่ายเงินกู้ในลักษณะเฮลิคอปเตอร์มันนี่ โปรยเงินแจกกระจายจนประเทศเป็นหนี้ อีก 150 ปีก็ใช้ไม่หมด แต่ไม่มีผลลัพธ์ออกมาในเชิงบวก ตนขอเตือนพี่น้องประชาชนว่าให้เตรียมตัวรับสภาพจนซ้ำซ้อนจนซ้ำซาก เพราะรัฐบาลจะไม่มีเงินแจกกระจายเหมือนสองปีที่ผ่านมาอีกแล้ว ซึ่งจะเกิดปัญหาทำให้ตัวเลขของคนจนพุ่งสูงขึ้นและสิ่งที่ตามมาก็คืออาชญากรรม ลักวิ่งชิงปล้นจะเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด นายจิรายุกล่าว