“ภาควัต”อัด “บิ๊กตู่”ทำเหลื่อมล้ำพุ่ง อุ้มคนรวยทอดทิ้งคนจน ชี้ไม่มี ส.ส.คนไหนทิ้งพื้นที่ เผยประชาชนหมดหวังเหตุรัฐทอดทิ้ง
นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีที่คนใกล้ชิดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายหลังการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีแล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาบอกให้เกษียณ เพื่อให้คนอื่นเป็นจะดีกว่า บอกว่าเพราะประชาชนไม่อาจพึ่งพา ส.ส.ในพื้นที่ได้นั้น เป็นการกล่าวความเท็จ และไม่เคยลงไปสัมผัสชีวิตประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง
ตลอด 7 ปีกว่า ที่พลเอกประยุทธ์ บริหารประเทศ ประชาชนไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างจริงใจ รวมทั้งตัวพลเอกประยุทธ์ ไม่เคยมองเห็นความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง การช่วยเหลือเป็นการช่วยเหลือแบบเสียไม่ได้ ที่ผ่านมาความเดือดร้อนของประชาชนนั้น เมื่อมีปัญหาพลเอกประยุทธ์ จะอ้างว่าสั่งการไปแล้ว แต่ไม่เคยติดตามงานที่สั่งการลงไปว่าเขาทำจริงหรือไม่ ดังนั้นประชาชนจึงไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐอย่างจริงใจ
นายภาควัต กล่าวด้วยว่า ส.ส.ในทุกพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ไม่เคยละเลยปัญหาของพี่น้องประชาชน ช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด ประชาชนไม่มีอุปกรณ์ในการปกป้องชีวิต ส.ส.ในพื้นที่ต้องวิ่งวุ่นทั้งหาหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ รวมไปถึงการจัดหารถรับส่งประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ ที่ต้องกลับภูมิลำเนา พลเอกประยุทธ์ เองเป็นคนบอกว่าจะให้รถทหารวิ่งรับส่งผู้ป่วย อยากถามว่ารถทหารอยู่ที่ไหน ชาวบ้านไม่เห็นสักคัน ทุกครั้งที่มีปัญหาก็จะวิ่งหา ส.ส.ในพื้นที่เป็นอันดับแรก การที่บอกว่าไม่สามารถพึ่ง ส.ส.ในพื้นที่ได้นั้น กลับกันประชาชนไม่สามารถพึ่งรัฐบาลได้มากกว่า
“นอกจากนี้การที่พลเอกประยุทธ์ ออกมาบอกว่าคนมีเงินขับรถบนทางด่วน คนจนขับรถข้างล่าง การพูดเช่นนี้ของผู้นำประเทศ เป็นการตอกย้ำความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เกิดขึ้น พลเอกประยุทธ์ กำลังขยายความเหลื่อมล้ำในสังคม และมองคนไม่เท่ากัน ชัดเจนว่าพลเอกประยุทธ์มองเห็นคนมีฐานะดี มากกว่าประชาชนคนธรรมดา คนรวยเข้าถึงการบริการของรัฐได้ง่ายกว่าคนจน การใช้กฎหมายก็เช่นกัน คนจนคดีเดินไวมาก แต่คนมีฐานะหรือใกล้ชิดรัฐบาล กว่าคดีจะถึงศาลใช้เวลาเดินทางนานนับปี นอกจากนี้รัฐบาลใช้เวลานานมากกว่าจะอนุมัติเงินช่วยเกษตรกร แต่หากเป็นของเจ้าสัวใกล้ชิดรัฐบาล รัฐบาลจะหามาตรการช่วยทันทีผลที่ออกมาคือรัฐบาลไม่เคยเห็นหัวคนจนตามที่พูดแต่อย่างใด” นายภาควัต กล่าว