“ชนินทร์” จวก “ประยุทธ์” อย่าลุแก่อำนาจโครงการนิคมฯจะนะ ต้องฟังเสียงประชาชน ย้ำรัฐอย่าซื้อเวลาตั้งคณะทำงาน สุดท้ายคนสงขลารับกรรม
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีสัญญาณเดินหน้าการปรับผังเมืองเพื่อรองรับการลงทุนของภาคเอกชน ในพื้นที่ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา จากเดิมสงวนไว้เพื่อใช้ในการเกษตรกรรม เป็นพื้นที่สามารถพัฒนาเป็นโรงงานอุตสาหกรรมได้ เพื่อผลักดันเป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจในฐานะ “เมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ทั้งที่ยังไม่ได้มีการเปิดให้ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดกว้างว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังบริหารประเทศเพื่อประชาชนคนไทย หรือเพื่อประโยชน์ใครเป็นสำคัญกันแน่ การปรับเปลี่ยนพื้นที่อำเภอจะนะหลายพื้นที่เป็นเขตอุตสาหกรรม มีประชาชนผู้ได้รับผลกระทบออกมาเคลื่อนไหวขอความเป็นธรรมจำนวนมาก เหตุใดจึงมีพฤติกรรมกีดกันผู้เห็นต่างออกจากเวทีรับฟังความคิดเห็น ปากพูดตลอดว่าทำเพื่อประชาชน แต่หลักปฏิบัติบิดเบี้ยวไม่เหมือนที่พูด หากยังเห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ขอให้แสดงความจริงใจในการรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน โดยต้องคำนึงผลกระทบต่างๆ ได้แก่
- ในกรณีการจัดทำแผนการพัฒนาใดๆ ที่เป็นระดับยุทธศาสตร์ และมีผลกระทบเป็นวงกว้างเช่นนี้ ควรจัดให้มีการทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ หรือ S.E.A. (Strategic Environmental Assessment) ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเป็นการทำการศึกษาร่วมกับประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเอาเป้าหมายของการพัฒนาเป็นตัวตั้ง และมีทางเลือกในการดำเนินการที่หลากหลาย สามารถประเมินข้อดีข้อเสียในมุมต่างๆ เพื่อสรรหาแนวทางที่สอดรับกันมากที่สุดก่อน จึงค่อยกำหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ ต่างจากที่รัฐบาลประกาศลอยๆ ด้วยตัวเองมาก่อนหน้านี้
- หากรัฐยังจะดำเนินการต่อ ต้องเปิดเผยผลการรับฟังประชาชนที่อ้างว่ามีการจัดทำขึ้นแล้วหลายต่อหลายครั้ง ว่ามีการรับฟังที่ครอบคลุมคนทุกกลุ่มหรือไม่ ความคิดเห็นของประชาชนเป็นอย่างไร หรือได้นำข้อกังวลของผู้ได้รับผลกระทบมาปรับแก้ไขหรือไม่ อย่างไร ไม่ใช่สักแต่ทำให้เป็นพิธีกรรมเหมือนได้ทำครบกระบวนการเท่านั้น เพราะการพัฒนาพื้นที่ใดๆ ของรัฐ ไม่ควรทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่ต้องนำข้อกังขาและความทุกข์ร้อนทั้งหมดกลับมาพิจารณาเพื่อหาทางออกที่สาธารณะยอมรับได้ไปด้วยกัน
- การนำเสนอแผนพัฒนาเมืองใดๆ นอกเหนือจากการขายฝันที่สวยหรูแล้ว รัฐบาลต้องสามารถแสดงแผนการช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาให้ผู้ได้รับผลกระทบในทางลบอย่างเป็นรูปธรรมประกอบด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
“พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเรียนรู้ได้แล้วว่าการบริหารประเทศต้องมีประชาชนเป็นหัวใจหลัก การวางยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาเมืองเองก็เช่นกัน ต้องมีกระบวนการรับฟังที่เอาประชาชนมามีส่วนร่วมอย่างจริงใจ อย่าลุแก่อำนาจทำตามอำเภอใจเหมือนสมัยที่ทำการรัฐประหารยึดอำนาจมา เพราะยุทธศาสตร์การพัฒนาชาติที่ผิดพลาด จะบั่นทอน โอกาส คุณภาพชีวิตคน ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศที่เรียกคืนมาไม่ได้” นายชนินทร์กล่าว