‘นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว’ ชี้ ‘พลเอกพัลลภ’ ยังคงสถานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย เผยชำระค่าสมาชิกแบบตลอดชีพไว้ตั้งแต่ปี 2561 ไม่มีใครมีอำนาจสั่งปลดได้ ห่วงคนไปรายงานทำเข้าใจคลาดเคลื่อน พร้อมเข้าพบเพื่อเชิญร่วมงาน เตือนนักร้อง ‘ร้องเท็จ’ มีความผิดตามกฎหมาย
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี เข้าใจผิดว่ามีการปลดออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยและมีผู้นำไปร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบและพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย ว่า 1. กรณีพลเอกพัลลภ อ้างว่าไม่ได้เข้าร่วมการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 เนื่องจากถูกลบชื่อออกไม่ให้เข้าร่วมนั้น ข้อเท็จจริงคือการประชุมใหญ่ดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้ข้อจำกัดของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งถูกเลื่อนการจัดงานมาและไม่สามารถจัดประชุมในพื้นที่สีแดงเข้มได้ จึงมีจัดประชุมที่จังหวัดขอนแก่น ภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ รวมทั้งเชิญสมาชิกพรรคไปร่วมประชุมก็ต้องไปเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับพรรค ทำให้สามารถเชิญผู้เข้าร่วมประชุมได้เพียง 509 คนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็น ส.ส. และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ขณะที่มีตัวแทนสมาชิกเข้าร่วมประชุมจำนวนน้อยมาก เนื่องจากจะต้องพิจารณาเอาที่เดินทางสะดวกและไม่สุ่มเสี่ยงต่อการระบาดของโควิด-19 ดังนั้นสมาชิกอาวุโสจำนวนมากจึงไม่ได้มีการเชิญไปร่วมประชุม อาทิ นายเสนาะ เทียนทอง นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และ พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ ดังนั้นการที่ พลเอกพัลลภ ระบุว่า ได้ให้ตัวแทนไปตรวจดูแล้วพบว่าถูกลบชื่อออกจากที่ประชุมนั้นจึงไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะพรรคได้พิจารณาเชิญเฉพาะผู้ที่จะสามารถเข้าร่วมประชุมได้จริงๆภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ
- สิ่งที่พลเอกพัลลภ กล่าวอ้างว่า ถูกปลดออกจากการสมาชิกพรรคเพื่อไทย สามารถยืนยันได้ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะ พลเอกพัลลภ ยังคงเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หมายเลข P103820442 และเป็นสมาชิกแบบตลอดชีพ เพราะได้ชำระค่าบำรุงสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 จำนวน 2,000 บาทเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการบอกว่าถูกปลดจากการเป็นสมาชิกพรรค จึงน่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของบุคคลที่พลเอกพัลลภสั่งให้มาดูและได้ไปรายงานท่าน
- ตามขัอบังคับพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่มีใครสามารถปลดใครออกจากการเป็นสมาชิกได้ นอกเสียจากการทำผิดข้อบังคับหรือคุณสมบัติขัดต่อกฎหมายพรรคการเมือง และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่บุคคลภายนอกจะมาสั่งการให้ปลดใครออกจากการเป็นสมาชิกพรรคได้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่เป็นความจริง
- พรรคเพื่อไทยเห็นความสำคัญของพลเอกพัลลภมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ในฐานะหัวหน้าพรรคก็ตั้งใจที่จะไปกราบพลเอกพัลลภด้วยตัวเอง แต่เมื่อปรากฎข่าวออกมาเช่นนี้ก็คิดว่าจะต้องยิ่งไปกราบเพื่อขอให้พลเอกพัลลภเข้ามามีบทบาทต่อพรรค และเพื่อชี้แจงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจที่พลาดเคลื่อนจากผู้ที่ไปรายงานท่านมากกว่า
- การกล่าวอ้างว่ามีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับผม โดยระบุถึงบุคคลภายนอกมาสั่งการให้ปลดจากการเป็นสมาชิกพรรคนั้น ข้อเท็จจริงทั้งหมดได้ยืนยันแล้วว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการจะไปอ้างถึงคนแดนไกลหรือบุคคลภายนอกมาสั่งปลดจึงไปไม่ได้
- พลเอกพัลลภ อ้างว่า ได้ช่วยเหลือดูแลผมมาตลอดนั้นยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะในการเลือกตั้ง ปี 2562 ก็ได้รับความเมตตาจากท่าน
- สำหรับกรณีที่มีผู้ไปร้องต่อ กกต. ด้วยการนำเรื่องทั้งหมดไปอ้างว่าอาจเข้าข่ายการยุบพรรคหรือไม่นั้นก็ต้องฝากไปถึงผู้ร้องที่มีเจตนาที่จะร้องยุบพรรคเพื่อไทยด้วยว่า กฎหมายพรรคการเมืองหากเกิดกรณีที่มีการร้องเท็จ พรรคเพื่อไทยก็จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย เพราะเรื่องนี้ข้อเท็จจริงปรากฎชัดเจนอยู่แล้ว โดยเฉพาะการอ้างถึงการชี้นำจากบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นเจตนาที่จะร้องเท็จ เนื่องจากคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคเพื่อไทย ไม่เคยยินยอมให้บุคคลภายนอกมาสั่งการ และสามารถตรวจสอบได้ว่า กก.บห. พรรคและสมาชิกทำงานอย่างอิสระมาโดยตลอด และเมื่อไม่มีการปลดจากการเป็นสมาชิกพรรค ไม่มีการกระทำใดๆ เกิดขึ้น การจะไปร้องว่ามีการสั่งการให้มีการยุบพรรคจึงเป็นไปไม่ได้
- ผมยังรักและเคารพพลเอกพัลลภอย่างสูง และตั้งใจที่จะไปกราบพร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับท่านด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อวานได้โทรศัพท์ต่อสายกับท่านเป็นครั้งแรก นับจากวันที่ 15 พฤศจิกายน เป็นต้นมา จึงได้เรียนชี้แจง พร้อมพูดคุยถึงความสำคัญของพลเอกพัลลภต่อพรรค และจะไปกราบขอให้ท่านเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรค แต่ขณะนี้ท่านได้เรียนแจ้งว่าเยังติดเงื่อนไขเรื่องการระบาดของโควิด ที่ยังต้องเว้นระยะห่างและจำกัดการพบปะกับบุคคลต่างๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง

“พิชัย” ห่วง “ประยุทธ์” รอดแล้ว แต่คนไทยจะไม่รอด ชี้ สถานการณ์เศรษฐกิจจะรุนแรงเกินความรู้ความสามารถ ยิ่งกู้มากยิ่งเจ๊งมาก แนะ เลิกการผูกขาดทุกชนิด และ วางมือก่อนชาติเสียหายหนักกว่านี้ “เลิศศักดิ์” ชี้ “ประยุทธ์” อยู่ต่อ ยิ่งรวบอำนาจ การกระจายอำนาจไม่เกิด “กฤษฎา” ชี้ “ประยุทธ์” อยู่ต่อ อุตสาหกรรมยิ่งเสื่อมถอย
อ่านต่อ
“พิชัย” เตือน “ประวิตร” เตรียมรับมือเศรษฐกิจโลกจะถดถอย ชี้ สหรัฐขึ้นดอกเบี้ยอีกและดอกเบี้ยจะสูงอีกนาน แนะ เร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยรองรับอนาคต และต้องไม่ขู่เรื่องปฏิวัติอีก “ศรันย์” ชี้ เศรษฐกิจโลกกำลังจะถดถอย แต่ผู้นำไทยยังไร้ทิศทาง จักรพล ถาม “High season” นี้ ประชาชนพร้อมแล้ว รัฐฯพร้อมรึยัง?”
อ่านต่อ