“เพื่อไทย” ห่วง “ประยุทธ์” บริหารล้มเหลว โอมิครอนระบาดหนัก ทำคนตกงานพุ่งทะลุ 4 ล้านคน เด็กจบใหม่ไม่มีงานทำ ชี้ คนจนเพิ่ม ค่าครองชีพพุ่ง อาชญากรรมจะสูง แนะ เลิกซื้อ F 35 และอาวุธ เร่งสร้างงานแทนแจกเงิน
นายนพ ชีวานันท์ ส.ส. พระนครศรีอยุธยา รองเลขาธิการ และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนเริ่มทวีความรุนแรง ส่งผลให้รัฐบาลต้องปิดรับนักท่องเที่ยวนานขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยที่ย่ำแย่อยู่แล้วต้องทรุดหนัก โอกาสที่จะฟื้นตัวได้ 4% ตามที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว. คลัง ขายฝันไว้คงเป็นไปได้ยากแล้ว เศรษฐกิจไทยจะทรุดต่อเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และ อาจจะลามไปถึงปี 2566 เป็นปีที่ 4 ก็เป็นได้ ซึ่งจะทำให้ปัญหาการว่างงานของไทยจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ตลอด 7 ปี การว่างงานของประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาตลอด และแม้ว่าตัวเลขการว่างงานของไทยล่าสุดจะอยู่ที่ 8.7 แสนคน หรือ 2.25% สูงที่สุดในรอบ 20 ปี แต่ความจริงคือการว่างงานที่แท้จริงมีมากกว่า 3 ล้านคน เกือบถึง 4 ล้านคน ตามข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย และยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นไปทะลุเกิน 4 ล้านคนในอีกไม่ช้า โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ปีละกว่า 4.7 แสนคน จะหางานทำไม่ได้ และจะเป็นภาระต่อครอบครัวและสังคม ทั้งนี้เพราะธุรกิจจำนวนมากก็ย่ำแย่ หนี้สินพุ่งกระฉูด ไม่มีหนทางที่จะชำระหนี้ได้ แค่จ่ายดอกเบี้ยก็แย่แล้ว แถมดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มจะขึ้นตามกระแสโลกอีก จึงมีโอกาสที่จะปิดตัวเพิ่มขึ้นอีกมาก และจะยิ่งทำให้การว่างงานเพิ่มมากขึ้นจากการว่างงานที่เป็นอยู่ และการว่างงานจะเป็นไปต่ออีกยาวนาน เพราะการจ้างงานใหม่จะไม่เพียงพอต่อการว่างงาน จำนวนธุรกิจที่มีปัญหาทางการเงิน และต้องเลิกกิจการมากกว่าจำนวนธุรกิจที่ตั้งใหม่ คนตกงานจะตกงานกันยาวนานและจะเพิ่มมากขึ้นทุกปี
นอกจากคนตกงานจะไม่มีรายได้ซึ่งทำให้คนจนพุ่งขึ้นแล้ว ค่าครองชีพยังสูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อของโลก ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ราคาหมูแพงขึ้น ส่งผลให้ประชาชนลำบากกันอย่างมาก และจะทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้น การจี้ ปล้น ลักขโมย ฉกชิงวิ่งราว และฉ้อโกง จะเกิดขึ้นอีกมาก อีกทั้งคนตกงานที่หวังจะไปพึ่งภาคเกษตรเหมือนในอดีตก็ทำไม่ได้ เพราะราคาสินค้าเกษตรยิ่งตกต่ำ ราคาข้าวถูกกว่าราคาของมาม่า ชาวนายิ่งลำบากกันมากขึ้น แถมปุ๋ยก็ยังมาแพง เป็นภาระหนักมาก
ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ ได้รู้สภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริง จะได้แก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง การแจกเงินในโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ ช้อปดีมีคืน เที่ยวด้วยกัน ฯลฯ ต้องเลิกแล้ว เพราะไม่เกิดประโยชน์และไม่เกิดการจ้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อเครื่องบินรบ F35 ยิ่งต้องยกเลิกไปก่อน ขนาด ผบ.ทร. ยังสั่งถอยเรื่องเรือดำน้ำ และต้องช่วยประชาชนให้มีรายได้ ประคองชีวิตก่อน คงไม่สมเหตุสมผลที่คนในประเทศตกงานกันมาก ครอบครัวอดอยาก ลูกหลานไม่มีเงินเรียนหนังสือ แต่รัฐบาลจะนำเงินไปซื้ออาวุธ ดังนั้นจึงควรนำเงินมาพัฒนาประเทศทางด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน ซึ่งจะเป็นรายได้มั่นคงให้กับประชาชนจะดีกว่ามาก
อยากให้พลเอกประยุทธ์ ระลึกเสมอว่า หนี้ของประเทศกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กำลังจะทะลุ 10 ล้านล้านบาทแล้ว และถึงแม้ขยายเพดานแล้วก็อาจจะไปชนและทะลุเพดานใหม่ได้ การใช้เงินต่อไปนี้ ควรมุ่งไปที่การสร้างงาน ถ้าจ่ายเงินแล้วไม่สร้างงาน ไม่สร้างรายได้ให้ประชาชน ไม่เพิ่มจีดีพี พลเอกประยุทธ์ ต้องหยุดใช้เงินสะเปะสะปะได้แล้ว ก่อนที่ประเทศจะย่ำแย่ไปกว่านี้ มีหนี้ท่วมมากแต่ประเทศกลับถอยหลังเหมือนที่เป็นอยู่