เพื่อไทยชวนคนไทยคิด ยุคประยุทธ์ เศรษฐกิจทรุด-ทุจริตเฟื่องฟู-กู้เก่ง ชี้ เพิ่มสิทธิ์บัตรคนจน ทำนโยบายประชานิยม หวังผลอะไรหรือไม่
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมเปิดลงทะเบียนผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนรอบใหม่ โดยตั้งเป้ามีคนจนผ่านการคัดกรองเข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้นจากเดิม 14.6 ล้านคนในปี 2564 เป็น 17 ล้านคน แสดงให้เห็นว่าในปี 2565 จะมีคนจนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2.4 ล้านคน ทั้งยังเพิ่มเงินช่วยเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกเดือนละ 200 บาท อีก 3 เดือน สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลยอมรับสภาพว่าภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้ทำให้คนจนหมดประเทศตามที่รัฐบาลได้เคยกล่าวเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้แล้ว โดยรัฐบาลนี้แสดงผลงานการบริหารเศรษฐกิจยอดแย่เป็นที่ประจักษ์ กู้เงินมาแจก กระตุ้นแต่ให้ประชาชนจับจ่าย แต่ไม่เคยเกิดการลงทุนใหม่ๆ สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ หรือพัฒนาเศรษฐกิจให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนเลย การแก้ปัญหาให้ประชาชนมีรายได้ เป็นเรื่องที่ดี แต่ด้วยวิธีการกู้เงิน ยิ่งทำให้ประเทศมีภาระหนี้ที่สูงขี้น ตลอดระยะเวลาที่พลเอกประยุทธ์ เข้ามาบริหารประเทศ รัฐบาลกู้เงินมากว่า 10 ล้านล้านบาทแล้ว ซึ่งท้ายที่สุด คนที่ต้องรับภาระหนี้คือประชาชน เรื่องนี้อยากให้คนไทยทุกคนช่วยกันคิดว่าพลเอกประยุทธ์ สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่
นายชนินทร์ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า การเพิ่มงบประมาณกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงเวลานี้ ดูเผินๆอาจเป็นการประคองสถานการณ์ปัญหาความยากจนแบบไม่ต้องมียุทธศาสตร์ตามสไตล์พลเอกประยุทธ์ แต่หากพิจารณาร่วมกับสัญญาณการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนไทม์ไลน์การเริ่มจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐชุดที่อนุมัติใหม่ในช่วงประมาณไตรมาส 3 แล้ว การใช้งบประมาณราว 60,000 ล้านบาทในครั้งนี้ อาจถูกครหาว่าเป็นโครงการประชานิยมครั้งใหญ่ หวังผลอะไรบางอย่างหรือไม่
ทั้งนี้ หลังจากนี้ไปต้องติดตามจำนวนประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจนจะเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับจำนวนคนจนที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากน้อยเพียงใด เพราะแค่ในปี 2563 เองตามข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประเทศไทยมีประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนเพิ่มขึ้นถึง 5 แสนคน จากปีก่อนในระยะเวลาเพียง 1 ปี
“พลเอกประยุทธ์ บริหารประเทศจนเศรษฐกิจทรุด แต่ทุจริตเฟื่องฟู แล้วรีดภาษีประชาชนมาใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่าย บั่นทอนโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศอย่างถาวร จนคนยากจนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากอยู่บริหารต่อไปมีหวังได้จนทั้งแผ่นดินแน่” นายชนินทร์ กล่าว