“เพื่อไทย” ติง “ประยุทธ์” ออก 10 มาตรการ “น้อยไปและไม่ฉลาด” ชี้ ยิ่งตอกย้ำความไม่มั่นใจของประชาชน และ จะถูกคนหาว่าโง่อีก เสนอ 10 มาตรการของ “เพื่อไทย” เทียบกับของรัฐบาล

นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองคาย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้แนะนำและเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนกันอย่างหนักจากปัญหาทางเศรษฐกิจมาตลอด และในที่สุดพลเอกประยุทธ์ ได้ออก 10 มาตรการช่วยเหลือประชาชนออกมา แต่เป็นมาตรการที่ต้องเรียกว่า “น้อยไป และ ไม่ฉลาด” โดยจะช่วยเหลือประชาชนได้น้อยมาก หรือแทบจะไม่ได้ช่วยเหลือเลย

ทั้งนี้ 10 มาตรการทำเหมือนกับว่าจะสักแต่ว่าทำ หรือ ถือว่าได้ช่วยแล้วเท่านั้น แต่จะช่วยคนได้น้อยมาก โดยวิเคราะห์ได้ดังนี้

  • เรื่องการช่วยเหลือเรื่องก๊าซหุงต้ม มียอดเงินช่วยเหลือที่น้อยมาก และยังต้องผ่านบัตรคนจนอีก ทั้งสำหรับประชาชนและสำหรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอย และคนที่ไม่ได้มีบัตรคนจนจะไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย
  • การช่วยเหลือน้ำมันเบนซินสำหรับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนมีเพียง 157,000 รายเท่านั้น และ ช่วยเพียงเดือนละ 250 บาท เฉลี่ยแล้วเพียงวันละ 8 บาท ซึ่งน้อยมาก
  • การคงราคาก๊าซ NGV มีผลน้อยมาก เพราะผู้ใช้ก๊าซ NGV มีจำนวนไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็น รถบรรทุกบางส่วน และรถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซ NGV เท่านั้น รวมถึงแท็กซี่มิเตอร์ในโครงการลมหายใจเดียวกันที่ได้ลดราคาก็มีจำนวนคนน้อย
  • การคงราคาดีเซลต่ำกว่า 30 บาทจนถึงสิ้นเดือนเมษายน ไม่น่าจะเป็นมาตรการที่ออกมาช่วยเหลือ แต่เป็นการเตือนมากกว่าว่าพลเอกประยุทธ์จะไม่ช่วยเหลือสนับสนุนราคาต่อแล้วหลังเดือนเมษายน
  • การบอกว่าจะดูแลราคาก๊าซหุงต้มไม่ให้ขึ้นราคาสูงเกิน ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นมาตรการ แต่ต้องเป็นหน้าที่
  • ส่วนเรื่องเงินสมทบก็เป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก
    ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามาตรการที่ออกมาแทบจะไม่ได้ช่วยประชาชนเลย แถมมีเงื่อนไขเต็มไปหมด ตอกย้ำผลโพลที่ประชาชนมากกว่า 3 ใน 4 ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลพลเอกประยุทธ์แล้ว และยิ่งตอกย้ำสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ พูดเองว่าทำอะไรคนก็หาว่าโง่ โดยมาตรการที่ออกมานี้ดูอย่างไรก็ไม่ฉลาด ในภาวะที่ประชาชนต้องมาเจอกับ ภาวะน้ำมันแพง ก๊าซแพง ไฟฟ้าแพง ข้าวของแพงและเงินเฟ้อสูง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอ 10 มาตรการ โดยที่บางเรื่องได้เคยเสนอไว้แล้ว และนำมารวบรวมให้พิจารณากันดังนี้
  1. การลดราคาน้ำมัน ทำได้โดยเร่งพิจารณาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงอีก 2.99 บาท จะทำให้ดีเซลลดลงได้ 3.20 บาท ให้ลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นไทยเท่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ในราคาไม่บวกค่าขนส่งและค่าใช้จ่ายอื่น อีกทั้งควบคุมค่าการตลาด
  2. การลดราคาก๊าซหุงต้ม ทำได้โดยก๊าซหุงต้มที่ไทยผลิตได้เองจากโรงแยกก๊าซและโรงกลั่นน้ำมัน บมจ. ปตท. ควรรักษาระดับราคาเดิมไว้ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน โดยให้ บมจ. ปตท. สนับสนุนราคาในส่วนนี้ และพิจารณาปรับราคาเฉพาะก๊าซที่ใช้เติมรถยนต์และก๊าซที่ใช้ในอุตสาหกรรม เก็บเงินอุดหนุนจากก๊าซที่ใช้ในธุรกิจปิโตรเคมี เพื่อนำเงินนี้มาพยุงราคาก๊าซช่วยเหลือประชาชนที่ต้องใช้ก๊าซหุงต้ม เหมือนที่ทำในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
  3. การลดราคาไฟฟ้า ทำได้โดยรัฐต้องเจรจาขอลด ‘ค่าความพร้อม’ สำหรับโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแต่ยังไม่ผลิตไฟฟ้า จะทำให้ค่าไฟลดลง รวมถึงลดค่าส่วนต่างของไฟฟ้าที่ซื้อจากโรงไฟฟ้าของเอกชนในราคาถูก แต่ถูกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตนำมาขายให้ประชาชนในราคาแพง จนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีกำไรสะสม 3 แสนล้านบาท การไฟฟ้านครหลวงมีกำไรสะสม 1 แสนล้านบาท ซึ่งควรนำมาช่วยลดรายจ่ายให้ประชาชน
  4. การให้รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี โดยจำกัดจำนวนประเภทที่ให้บริการฟรี เหมือนในสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน
  5. การลดค่าโดยสารของระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟลอยฟ้า และรถไฟใต้ดิน
  6. การให้ประชาชนใช้น้ำประปาฟรี ไฟฟ้าฟรี ในปริมาณที่จำกัด ถ้าใช้เกินจะไม่ให้ใช้ฟรี เหมือนสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน คือจะใช้ฟรีต้องใช้อย่างประหยัด
  7. นำเงินกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานจำนวน 20,087.42 ล้านบาทที่พลเอกประยุทธ์ โอนไปเป็นรายได้มาคืน ซึ่งจะทำให้สนับสนุนราคาน้ำมันและราคาก๊าซต่อไปได้
  8. เร่งเจรจาแหล่งก๊าซเพื่อให้ได้ก๊าซราคาถูกมาสนับสนุนราคาก๊าซหุงต้มและช่วยทำให้ราคาไฟฟ้าถูกลง
  9. จัดงบประมาณใหม่ โดยตัดงบการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก โดยเฉพาะงบการทหาร และการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ไม่ซื้อเครื่องบินรบ F-35 ลดเงินเดือน สว. และผู้ติดตาม ฯลฯ และนำเงินมาช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน และเพิ่มการสร้างงาน
  10. เร่งพัฒนาและส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และระบบขนส่งมวลชนที่ใช้ไฟฟ้า รวมถึงพาหนะทุกชนิดที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และเร่งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้เข้ากับทิศทางของโลกในอนาคต
    ทั้ง 10 มาตรการนี้ รัฐบาลสามารถทำได้ทันที และรัฐจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่จะช่วยประชาชนได้อย่างมากและช่วยได้อย่างทั่วถึง ในภาวะที่คนยากลำบากกันเช่นนี้ จึงอยากให้ประชาชนได้เปรียบเทียบ 10 มาตรการของพลเอกประยุทธ์ กับ 10 มาตรการของพรรคเพื่อไทยว่ามาตรการของใครจะทำประโยชน์และช่วยเหลือประชาชนได้มากกว่ากัน //