ตายรายวันใกล้ทะลุร้อย ‘ประเสริฐ’ เตือน ‘รัฐบาล’ อย่าเร่งผลักวิกฤตโควิดให้เป็นภาระประชาชน ชิงประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่นซ้ำเติมชาวบ้าน ห่วงหลังสงกรานต์ ผู้ติดเชื้อ-ผู้เสียชีวิตพุ่ง เหตุรัฐยังไร้มาตรการรับมือที่ชัดเจน


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมทีมครอบครัวเพื่อไทยนครราชสีมา เข้าร่วมพิธีเททองหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราช จังหวัดนครราชสีมา พร้อมพูดคุยกับพี่น้องประชาชนเพื่อสอบถามถึงปัญหาความเดือดร้อนในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
.
นอกจากนี้ครอบครัวเพื่อไทยจังหวัดนครราชสีมา ยังร่วมกันเดินทางไปเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้สูงอายุ ณ สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรมปกรณ์โพธิ์กลาง มอบสิ่งของและเลี้ยงอาหาร พร้อมให้กำลังใจผู้สูงอายุ
.
นายประเสริฐ กล่าวว่า สถานการณ์โควิดวันนี้ ทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนไปทั่ว แต่รัฐบาลที่บริหารประเทศบกพร่อง ผิดพลาดมาโดยตลอด ไม่เพียงทำให้วิกฤตโรคระบาดหนักหน่วงมากกว่าที่ควรจะเป็น แต่ยังเป็นผลทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปากท้อง จนพี่น้องประชาชนต้องทุกข์ยากแสนสาหัสมากกว่าเดิม
.
“การแพร่ระบาดของโควิดทำร้ายคนไทยมาเป็นปีที่ 3 แล้ว รัฐบาลยังไม่ควบคุมการระบาดได้ สถานการณ์ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้น ในส่วนของผู้ติดเชื้ออยู่ระดับเกินหมื่นทุกวัน ‘เจอ แจก จบ’ สุดท้ายประชาชนกลายคนเป็นที่ถูกทิ้งให้ ‘จบ เจ็บ ตาย’ รายวัน’ ในทางวิชาการประเมินกันอย่างมากว่า โอมิครอนติดลมบน หลังสงกรานต์มีโอกาสระบาดรุนแรงเป็นไฟลามทุ่ง พุ่งออกจาก กทม.ไปสู่จังหวัดต่างๆ เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้มีมาตรการอะไรที่ชัดเจนในการรับมือการแพร่ระบาดช่วงเทศกาลที่มีการเคลื่อนย้ายผู้คนจำนวนมาก ผู้เสียชีวิตรายวันนิวไฮต่อเนื่อง ขยับจากหลักสิบใกล้แตะหลักร้อยเข้าไปทุกที ในขณะที่รัฐบาลและ ศบค. พยายามยัดเยียดให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งสร้างความกังวลให้กับพี่น้องประชาชนไปทั่ว” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
.
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า รัฐบาลพยายามอย่างมากที่จะประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น แต่ไม่มีความพร้อมใดๆ ที่ผ่านมายังมีข่าวออกมาเป็นระยะว่าพี่น้องประชาชนเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาลและถูกปฏิเสธการรักษา ยิ่งในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งระบบการรักษาพยาบาลและการสาธารณสุขไม่ได้พร้อมสมบูรณ์ทุกพื้่นที่ ยิ่งสร้างความกังวลให้พี่น้องประชาชน ดังนั้นรัฐบาลจึงควรพิจารณาการประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่นให้รอบคอบ อย่าปล่อยให้เป็นการผลักวิกฤตปัญหาไปเป็นภาระประชาชนมากกว่านี้ เพราะจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมทุกข์ให้พี่น้องประชาชน