นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวทวงถามถึงการบริหารงานภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยตั้งคำถามว่า พลเอกประยุทธ์กำลังทำอะไรกันอยู่ เหตุใดจึงปล่อยปละละเลยความทุกข์ร้อนของประชาชน ที่จะอดตาย หมดปัญญาทำมาหากิน เหตุจากสินค้าอุปโภคบริโภค และต้นทุนการผลิตต่างๆปรับราคาแพงขึ้นทุกรายการ ในระหว่างที่อัตราการจ้างงานยังไม่กลับมาสู่ภาวะปกติ อัตราค่าแรงถูกกดไม่พอกิน และราคาผลผลิตเกษตรเองก็ตกต่ำจนแทบไม่คุ้มต้นทุน การที่พลเอกประยุทธ์เอาเวลาที่ยากลำบากนี้มามุ่งแต่แก้ปัญหาหวยแพง ไม่ให้ความสนใจ และเร่งออกมาตรการที่เหมาะสมกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างทันท่วงที เกรงว่าประชาชนจะต้องอดอยากล้มตาย ธุรกิจห้างร้านปิดตัวกันจนหมด ถึงเวลานั้นคงไม่มีใครสรรเสริญชื่นชมผลงาน ล็อตเตอร์รี่ 80 บาทในภาวะที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศพังยับเยินเช่นนี้แน่

นายชนินทร์กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ทำเพียงกู้เงินมาแจกเพื่อประคองคะแนนนิยม โดยไม่มีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจ ยกระดับแรงงาน สร้างอาชีพ หรือต่อยอดศักยภาพทางการแข่งขันต่างๆของไทยเพียงพอ จึงต้องจัดทำงบประมาณขาดดุลต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ไม่สามารถหารายได้มาชดเชยภาระค่าใช้จ่ายได้ จนปัจจุบันประเทศไทยมีหนี้สาธารณะสูงเฉียด 10ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราหนี้สาธารณะต่อจีดีพีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะลุเกิน 60% ที่เป็นเพดานวินัยการเงินการคลังเดิมไปแล้ว และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยคาดว่าจะแตะ 62% ภายในสิ้นปีนี้ตามการคาดการณ์ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้จะเป็นปัญหาให้รัฐบาลที่มารับช่วงต่อมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายหนี้สินที่ต้องชำระต่อปีที่สูง ในระหว่างที่โครงสร้างเศรษฐกิจที่พังไปแล้วไม่อำนวยให้จัดเก็บรายได้ได้ อีกทั้งความสามารถในการกู้เงินเพื่อมาลงทุนสร้างเศรษฐกิจก็ถูกจำกัดไปด้วย จึงขอวิงวอนให้พลเอกประยุทธ์พิจารณาลงจากอำนาจโดยด่วน ให้คนมีความรู้ความสามารถมากกว่าได้เข้ามากู้สถานการณ์โดยเร็ว

“พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศเหมือน ไฟไหม้บ้านแต่วิ่งไล่จับหนู ไม่เรียนรู้ที่จะจัดลำดับความสำคัญของปัญหา ในเวลาเดียวกันกลับมีละครแก้หวยแพง มาบิดเบือนความสนใจประชาชนจากปัญหาปากท้องที่รัฐบาลยังแก้ไม่ได้ หากปล่อยให้บริหารแบบซุกปัญหาไว้ใต้พรม มุ่งแต่ใช้งบประชานิยมแก้ปัญหาแบบฉาบฉวยแบบนี้ ผมกลัวเหลือเกินว่าโครงสร้างเศรษฐกิจไทยจะพัง จนไม่เหลือทางรอดให้รัฐบาลอื่นแก้ได้” นายชนินทร์กล่าว