นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลายปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เคยให้ความสำคัญกับอาชีพเกษตรกร ปล่อยให้เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนการเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลอ้างสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้แม่ปุ๋ยมีราคาแพง ควบคุมไม่ได้ การตอบเช่นนี้ เป็นการปัดความรับผิดชอบ

พลเอกประยุทธ์ ปล่อยให้นายทุนใกล้ชิดตักตวงผลประโยชน์จากประชาชนทุกภาคส่วนเดือดร้อนทั้งประเทศ หลายปีที่ผ่านมาพบว่าผู้สนับสนุน รัฐบาล รวยขึ้นหลายเท่า สวนทางกับประชาชนที่ทุกข์เข็ญแสนสาหัส ราคาข้าวเปลือก 1 กิโล ต่ำกว่าราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เกษตรกรต้องขายข้าวเปลือก 2 กิโลถึงซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ 1 ห่อ ทั้งนี้รัฐบาลสอบตกทั้งคณะเพราะ ไม่สามารถแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยได้เลย ยิ่งอยู่ยิ่งขยายมากขึ้น

นายปิยวัฒน กล่าวด้วยว่า ผลจากการบริหารที่ไร้ความรับผิดชอบ นโยบายที่ผ่านมาของรัฐบาลไร้ทิศทาง ไม่สามารถยก ระดับความเป็นอยู่ของประชาชนได้ นอกจากนี้ยังส่งผลให้ร้าน ค้าหลาย แห่งในพื้นที่ต่างจังหวัดต้องประสบปัญหา ประชาชนไม่มีเงินมาจับจ่ายซื้อสินค้า โควิดก็แพร่กระจ่ายทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประชาชนไม่กล้าออกมาซื้อสินค้า ส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่ต่างจังหวัดล่มสลาย พ่อค้าแม่ค้าขายของไม่ได้ ราคาสินค้าทุกอย่างขึ้นหมด แต่รายได้ของประชาชนลดลง

“พลเอกประยุทธ์จะดันทุรังรั้งอำนาจไปทำไม เพราะยิ่งอยู่ยิ่งทำลายทุกอย่าง ปีนี้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศเตรียมรับกรรมที่ไม่ได้ก่อ เหตุจากสินค้าอุปโภค บริโภค พาเหรดปรับราคาตามราคาพลังงาน ในขณะที่รัฐบาลไม่สามารถ ควบคุมราคาสินค้าได้เลย เพราะเกรงใจเอกชนใกล้ชิด ล่าสุดเตรียมกู้เงินอีก 1.4 ล้านล้านบาท หวั่นว่าจะนำมาใช้เพื่อการเมืองมากกว่า ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง” นาย ปิยวัฒน กล่าว