นายพชร กล่าวว่า ตนได้หารือกับ รมว. วิจัย นวัตกรรมและดิจิตัล นาย เซบาสเตียน เบอดูจา ในหัวข้อเกี่ยวกับการขับเคลื่อนนโยบายดิจิตัล โดยเฉพาะกับการบริการสาธารณสุขและบริการสังคม ทั้งนี้ นายเซบาสเตียน จบการศึกษาจาก แสตนฟอร์ดและฮาเวิร์ด โดยมีอายุเพียง 37 ปี เพิ่งได้ถูกเชิญเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีได้เมื่อ เดือน เมษายน 2022 ที่ผ่านมานี้ และยังได้หารือกับนาย วลาดีเมีย เวเยสโก้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 5 สมัย จากมาเซโดเนีย เกี่ยวกับปัญหาจำนวนประชากรที่ลดลงในประเทศยุโรปตะวันออกซึ่งเป็น ปัญหาใหญ่สำหรับ การบริหารจัดการงบประมาณและการพัฒนาประเทศ ซึ่งประเทศไทยกำลังประสบปัญหาประชากรที่ลดลงในแบบเดียวกัน โดยในงานเสวนามีการหารือ ด้านการ ต่อต้านการค้ามนุษย์ ความมั่นคงและสันติภาพในระดับภูมิภาค และ วิกฤตภาวะผู้นำ

ทั้งนี้ งานประชุมร่วมเพื่อความสัมพันธ์นี้ จัดขึ้นทุกปี ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา และ หลายๆประเทศในยุโรปสลับกันไป โดยเป็นงานภายในของผู้มีความสัมพันธ์เสมือนครอบครัวในระดับผู้นำด้านต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกโดยมุ่งหวังเพื่อพัฒนา สร้างความสามัคคี และ เชื่อมต่อความหวังเพื่อสนับสนุนผู้นำระดับประเทศในการทำหน้าที่เพื่อประเทศและประชาชนของสมาชิกในครอบครัวนี้

อย่างไรก็ตามจากการติดตามสถานการณ์การประชุม APEC ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และจะมีขึ้นภายในปลายปีนี้ ตนมีความกังวลว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะควบคุมการประชุมไม่อยู่ และ จะกลายเป็นสนามประลองกำลังระหว่างมหาอำนาจในประเด็นสงครามรัสเซียยูเครน จึงอยากขอเตือนล่วงหน้า เพราะในอดีตสมัยที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม G 77 ในปี 2559 พลเอกประยุทธ์ เองกลับเคยใช้เวทีนานาชาติดังกล่าวพูดกระแนะกระแหนนายพิชัย นริพทะพันธุ์ โดยถามว่านายพิชัย จบอะไรมาถึงมาวิจารณ์เศรษฐกิจ ทั้งที่เวทีนานาชาติและนายพิชัย ก็จบเศรษฐศาสตร์บัณฑิต และ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกทั้งปัญหาเศรษฐกิจที่นายพิชัย วิเคราะห์และตักเตือนก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริงทั้งหมด และในช่วงนั้นคนอื่นกลัวไม่มีใครกล้าวิจารณ์ ที่สำคัญคือพลเอกประยุทธ์ กลับไม่ย้อนถามตัวเองเลยว่าจบอะไรมาถึงมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยถึงได้เละขนาดนี้