อรุณี เปิดงบ 66 อว.รายจ่ายประจำพุ่ง แนะลดบุคลากร-เพิ่มทักษะเด็กจบใหม่ฟรี เตรียมพร้อมก่อนเศรษฐกิจฟื้นตัว

นางสาวอรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ด้วยวงเงินงบประมาณกว่า 3.18 ล้านล้านบาท ที่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. 2565 นอกจากภาพรวมการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายใต้สถานการณ์ค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงแล้ว ยิ่งสะท้อนถึงความไร้ประสิทธิภาพในการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ในการบริหารประเทศ

นางสาวอรุณี กล่าวต่ออีกว่า จากการศึกษาข้อมูลการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา โดยเฉพาะกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ตั้งแต่ปี 2563-2566 ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อสังเกตุดังนี้

1.การจัดสรรงบบุคลากรของ อว.เพิ่มสูงขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2563-2566 โดยปี 2566 งบประมาณรายจ่ายสำหรับบุคลากรมีจำนวน 7.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62 ของภาพรวม ทั้งๆที่หลายมหาวิทยาลัยขาดแคลนนักศึกษา หลายสาขาวิชาต้องปิดตัวลงเพราะไม่มีนักศึกษาเรียน แต่งบบุคลากรกลับสวนทาง การปรับลดขนาดบุคลากรลง จึงควรเป็นสิ่งที่กระทรวง อว.ต้องตระหนักเพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณในภาพรวม

2.มหาวิทยาลัยล้นตลาด (Over Supply) ผลิตนักศึกษาไม่ตรงความต้องการตลาด เน้นจูงใจเรียนฟรีด้วยการกู้ยืม กยศ. รับประกันการเป็นหนี้แต่ไม่การันตีการมีงานทำ เพราะตัวเลขการว่างงานไตรมาสแรกในปี 2565 พบว่า กลุ่มที่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษามีอัตราการว่างงานสูงสุดและยังมีแนวโน้มว่างงานระยะยาวมากที่สุด แต่กับงบที่เกี่ยวข้องกับการ “เพิ่มทักษะ” ( UpSkill ) และ “เปลี่ยนทักษะ” ( Reskill) แบบเรียนฟรีให้นักศึกษาที่ยังว่างงานเพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวในสัดส่วนที่น้อยมาก

“ทุกวันนี้การศึกษาไทยมีแต่จะดำดิ่งลงสู่ก้นเหว โลกทุกวันนี้เน้น Leaning การเรียนรู้ด้วยตนเอง มากกว่า Education การศึกษาที่มุ่งเน้นใบปริญญา ประเทศไทยไร้ความหวังมากพอแล้วกับการมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อพลเอกประยุทธ์ อย่าให้กระทรวง อว.แหล่งรวมสังคมอุดมปัญญากลายเป็นต้นตอของปัญหา แต่ควรเป็นกระทรวงแห่งความหวัง” นางสาวอรุณีกล่าว