“เพื่อไทย” เตือน อย่าด่วนสรุปความสำเร็จในการแก้ปัญหาลอตเตอรี่ เหมือนลิงแก้แห แก้ด้านหนึ่งเพิ่มปัญหาอีกด้านหนึ่ง แนะ มองให้ครบทุกด้าน จะได้ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเลย กรรมการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับประชาชนที่สามารถซื้อสลากกินแบ่งของรัฐบาลได้ในราคา 80 บาท ทางออนไลน์ ซึ่งหากยังจำได้ความพยายามที่จะทำให้ราคาล็อตเตอรี่อยู่ที่ 80 เริ่มมาตั้งแต่สมัย พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ มาเป็นประธานกองสลาก ที่เน้นการบังคับใช้กฎหมาย จับกุมผู้ขายเกินราคา จนสุดท้ายตั้งนายอนุชา นาคาศัย รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ มาเป็นคณะกรรมการแก้ไขราคาสลากกินแบ่ง และมีการบุกเข้าจับกุมและฟ้องร้องบริษัทมังกรฟ้า ทุกครั้งก็จะอ้างว่าเป็นความสำเร็จ ท้ายที่สุดก็ยังเป็นเช่นเดิม แถมล่าสุดมีปัญหาคลิปเสียงเรียกเงินสำหรับโควต้าล็อตเตอรี่ จนต้องมีการลาออกของกรรมการบางคนเป็นข่าวเกรียวกราวในสื่อมวลชน จนกระทั่งมีการขายออนไลน์นี้
ทั้งนี้การขายออนไลน์แม้จะเป็นเรื่องดี ให้ประโยชน์แก่ผู้บริโภคสามารถซื้อได้ในราคา 80 บาท เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด และเป็นวิธีที่ทั้งนักวิชาการ และผู้ที่เคยศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหา รวมถึงสำนักงานสลากเองเลือกที่จะไม่นำมาใช้ แต่รัฐบาลบีบให้กองสลากเลือกวิธีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้กับกลุ่มบุคคลที่ขายสลากอยู่แล้วเช่น กลุ่มผู้พิการและผู้ค้ารายย่อย ดังนั้นจึงมีข้อสังเกตุ ข้อห่วงใย และคำถามดังนี้
- รัฐบาลจะใช้การขายสลากดิจิทัลเป็นแนวทางหลักในการแก้ไขปัญหาโดยจะเพิ่มปริมาณสลากมากขึ้นอีกหรือไม่ เพราะหากมีการเพิ่มปริมาณสลากที่จะซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มมากขึ้น ก็ยิ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ค้าสลากรายย่อยที่หาเช้ากินคํ่า และไม่ได้รับการจัดสรรโควต้าสลาก จำนวนหลายแสนคนที่จะต้องตกงาน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ตกตํ่าในปัจจุบัน จากการใช้นโยบายสลากดิจิทัลที่ง่ายต่อการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลเพียงเพื่อให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาได้ แต่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนอีกจำนวนมาก
- จากการที่ผู้อำนวยการกองสลากมีการเสนอให้ยึดโควต้าตัวแทนจำหน่าย 8,000 ราย คิดเป็นจำนวนสลากเกือบ 6 ล้านฉบับ ที่ถูกกล่าวหาว่าขายสลากเกินราคาให้กับแพลตฟอร์มออนไลน์ สำนักงานสลากจะคืนสิทธิ์ดังกล่าวให้กับผู้ค้าสลากหรือไม่ เพราะเหตุว่าศาลได้มีการตัดสินว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ถูกกล่าวหาไม่มีความผิด พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการบุกค้นและกล่าวหาผู้ประกอบการโดยขาดความรอบคอบของทีมเฉพาะกิจรัฐบาล เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เป็นความเคยชินที่เคยปฏิบัติในสมัยรัฐบาล คสช. ที่มีมาตรา 44 เป็นเครื่องมือ
- ขอทวงถามการเพิ่มสิทธิ์ซื้อจองสลากผ่านธนาคารกรุงไทยให้กับผู้ค้าสลากรายย่อย จำนวน 200,000 สิทธิ์ ที่กองสลากเคยรับปากไว้และอ้างว่ากำลังดำเนินการคัดสรรให้ได้ผู้ค้าสลากตัวจริง สำนักงานสลากจะประกาศรายชื่อผู้ได้รับสิทธิ์เมื่อใดและกระบวนการนี้จะมีความโปร่งใสเพียงพอหรือไม่ ไม่ให้เป็นเพียงพิธีกรรมและจัดสรรสลากให้กับพวกพ้องของผู้มีอำนาจเท่านั้น
ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลได้ดูตัวอย่างของหวยออนไลน์ในสมัยพรรคไทยรักไทยที่สามารถทำรายได้และไม่ไปกระทบตลาดเดิมและผู้ค้าสลากเดิมที่ทำมาหากินอยู่แล้ว อีกทั้งพรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายหวยบำเหน็จ สำหรับเป็นการออมทรัพย์ให้ผู้ที่ชอบซื้อล็อตเตอรี่และได้มีโอกาสออมทรัพย์ไปในตัวตอนเกษียณอายุด้วย