อนุสรณ์ แนะ ส.ว.แสดงสปิริตไม่โหวตเลือกนายกฯ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ออกมายกย่องนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. คือความหวังของยุคสมัย พอกันทีพวกโกงกิน ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ปฏิวัติรัฐประหาร ว่า กาลเวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน แม้นายวันชัยอาจคิดได้ช้า แต่ก็ยังดีกว่าคิดไม่ได้ นายวันชัยวันนี้ คือคนเดียวกับนายวันชัยที่มีคลิปไปเล่าในงานเลี้ยงด้วยความภูมิใจว่าเป็นผู้เสนอคำถามพ่วงให้ส.ว.โหวตนายกฯได้ และนายวันชัยก็เป็น 1 ใน 249 ส.ว.โหวตเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตผู้นำการรัฐประหาร ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ที่นายวันชัยบอกว่าพอกันที เป็นนายกฯ ตนไม่ได้โหนนายชัชชาติ แต่ข้อเท็จจริงคือ นายชัชชาติคือความภูมิใจของพรรคเพื่อไทย และเห็นคุณค่าในตัวนายชัชชาติมานานแล้ว จึงถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับดีไซน์มาเพื่อพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีคำถามพ่วงส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ป่านนี้นายชัชชาติ อาจได้เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะปลดปล่อยพันธการที่ผูกมัดและฉุดรั้งประชาชน ปล่อยให้ประชาชนได้เลือกนายกรัฐมนตรีผ่านตัวแทนที่ประชาชนเลือกมา การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า ควรเป็นหน้าที่เฉพาะ 500 ส.ส.ที่ยึดโยงและมีที่มาจากประชาชนเท่านั้น พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้เสนอแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ปิดสวิตช์ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีมาหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ถ้านายวันชัยเชื่อในประชาชน ขอให้แสดงสปิริตประกาศสัตยาบัน หากแก้ไขรัฐธรรมนูญตัดอำนาจส.ว.โหวตเลือกนายกฯไม่ได้ ส.ว.พร้อมสละอำนาจโหวตนายกฯเพื่อให้ได้นายกฯตามเจตนารมย์ของประชาชนอย่างแท้จริง
“เวลาที่เหลืออยู่ ถ้าส.ว.ต้องการทำความหวังของยุคสมัยให้เป็นจริง พอกันทีกับพวกใช้อำนาจบาตรใหญ่ ปฏิวัติรัฐประหาร ต้องเริ่มต้นที่การแสดงสปิริตไม่โหวตเลือกนายกฯ ปล่อยให้เป็นหน้าที่เฉพาะ 500 ส.ส.ผู้แทนของประชาชนโหวตเท่านั้น จะนำพาประเทศเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่เป็นสากลมากขึ้น” นายอนุสรณ์ กล่าว