ลัมปีสกินระบาดซ้ำ โรคต้องป้องกัน ไม่ใช่ตามแก้ เพื่อไทยเล็งรัฐบาลประยุทธ์ละเลย เข้าข่ายผิด ม.157

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ประธานคณะทำงานด้านนโยบายการเกษตรพรรค นางสาวสกุลณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร คณะทำงานด้านนโยบายการเกษตรพรรค และ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวถึงสถานการณ์พบการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินระบาดหนักในสัตว์อีกครั้ง ชี้ลัมปีสกินไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ ผ่านมา 1 ปี แต่ยังปล่อยปัญหาเกิดซ้ำ อาจเข้าข่ายมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สร้างความเดือนร้อนทั้งแผ่นดิน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ในฐานะประธานคณะทำงานด้านนโยบายการเกษตรพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปี 2564 โรคลัมปีสกินระบาดไปทั่วประเทศไทย โคกระบือล้มตายประเมินมูลค่าความเสียหายนับหมื่นล้านบาท วันนี้ปรากฎการระบาดขึ้นอีก แต่วัคซีนก็ยังตามมาไม่ถึงมือเกษตรกร การปล่อยปละซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ อาจเข้าข่ายมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยส่วนตัวจะปรึกษากับฝ่ายกฎหมายของพรรค และดำเนินคดีเรื่องนี้ถึงที่สุด

อยากถามไปถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงเกษตร และอธิบดีกรมปศุสัตว์ ว่าเข้าใจคำว่า ‘ป้องกัน’ หรือไม่ เพราะการป้องกันคือทำก่อนโรค แต่ขณะนี้โรคเกิดขึ้นซ้ำอีก แสดงถึงประสิทธิภาพการบริหารที่ไรัความสามารถไม่ใส่ใจปัญหาความเดือนร้อนประชาชน ซึ่งหากมีการวางแผนการจัดการที่ดี วัคซีนควรถึงมือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือในพื้นที่ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา แต่รอแล้วรออีก วัคซีนก็ยังไม่ถึง และหากใส่ใจจัดลำดับความสำคัญของปัญหา ข่าวผู้บริหารกระทรวงเกษตร ลงพื้นที่พ่นยาฆ่าเชื้อตามคอกฟาร์ม พร้อมให้วัคซีนปากเท้าเปื่อย คงไม่เกิดขึ้น เพราะเป็นการทำคนละเรื่องคนละเวลา ชาวบ้านต้องการวัคซีนลัมปีสกินเป็นเรื่องเร่งด่วน หากวัคซีนผลิตเองไม่พอ ก็ต้องนำเข้าและกระจายให้ทั่งถึงอย่างรวดเร็ว

นางสาวสกุลณา ในฐานะ ส.ส. พื้นที่ กล่าวว่า ได้เห็นปัญหาและรับข้อร้องเรียนของประชาชนอย่างมากมาย ว่าโรคลัมปีสกินได้กลับมาระบาดอีกครั้ง และได้เริ่มขยายวงกว้างเต็มพื้นที่แล้ว ความจริงในพื้นที่ย้อนแย้งตรงข้ามกับการสื่อสารของรัฐบาลว่าจะตั้งการ์ดสูง และจะสามารถควบคุมโรคได้ ด้วยการแจกจ่ายวัคซีนที่ผลิตโดยคนไทยฟรีทั่วทั้งประเทศ ทั้งที่ขณะนี้ กลางเดือนมิถุนายน 2565 แล้ว ก็ยังไม่มีวัคซีนถึงพื้นที่ เกษตรกรต้องจัดหาเองในราคาแพง

‘โคกระบือตายจริงป่วยจริง เจ็บจริง’ เกษตรกรเจอปัญหาและรับผลกระทบเต็มๆ จะเรียกว่าควบคุมโรคได้แล้วได้อย่างไร รัฐบาลล้มเหลวซ้ำซาก ขอย้ำว่าโรคลัมปีสกินไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ มีคำเตือนอย่างน้อยตั้งแต่ปี 2563 และในรัฐสภา ก็ได้มีการอภิปรายเสนอแนะสาเหตุวิธีการแก้ไขมาตลอดปี แต่รัฐบาลก็ไม่ทำ ทั้งที่ปัญหาโรคลัมปีสกินไม่ใช่เรื่องแก้ยาก เป็นเทคนิควิธีพื้นฐานทางสัตวบาลเท่านั้น การใช้โวหารสื่อสารบิดเบือนความจริงของรัฐบาลแบบนี้ ยิ่งซ้ำเติมเกษตรกรสู่หายนะ

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวปิดท้ายว่า การบริหารราชการที่ผิดพลาดบกพร่อง ปล่อยให้ประชาชนลำบาดเดือนร้อน รัฐบาลประยุทธ์จะต้องชดใช้ โรคลัมปีสกินไม่ได้กระทบเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือเท่านั้น แต่จะกลายเป็นปัญหากระทบห่วงโซ่อาหารทั้งระบบ ส่งผลถึงคนไทยทุกคน

“บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า ประชาชนไทยไม่สามารถไว้ใจรัฐบาลประยุทธ์ได้อีก แม้รู้ว่ามีปัญหา แต่ไม่เคยคิดแก้ปัญหา ละเลยกับความสูญเสียบาดเจ็บล้มตาย หากเกษตรกรพื้นที่ใดยังไม่ได้รับการชดเชยเยียวยา ยังไม่ได้รับวัคซีน ขอให้แจ้งมายังพรรคเพื่อไทย เราติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด เพื่อไทยจะยืนอยู่ข้างประชาชน” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว