นายปิยวัฒน์ พันธ์สายเชื้อ ส.ส. ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีที่ผ่านมาเกษตรกรได้มาร้องเรียนว่า ในหลายพื้นที่ของจังหวัดยโสธร เริ่มพบการระบาดของโรคลัมปีสกิน ล่าสุดได้ประสานไปยังปศุสัตว์จังหวัดยโสธร ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ออกมาสำรวจและหามาตรการแก้ไขปัญหาโดยด่วน

เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ไม่ได้อยากรับเงินชดเชย เพราะการเลี้ยงวัวเหมือนการออมเงิน เพราะการเลี้ยงวัวสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เมื่อเลี้ยงจนได้ขนาดเกษตรก็สามารถสร้างรายได้ จากวัวที่เลี้ยง ในปี 2564 ครั้งที่ระบาดในปีที่ผ่านมา วัวจำนวนหลายพันตัวต้องสังเวยความล่าช้าของรัฐบาล ดังนั้นปีนี้หวังว่าจะไม่เกิดเหตุซ้ำรอย

นายปิยวัฒน์ กล่าวด้วยว่าการปล่อยให้โรคลัมปีสกินระบาดอีกระลอกทั้งที่รับรู้ปัญหามานาน รัฐควรต้องปรับกระบวนการ การทำงานใหม่ ต้องเร่งกระจายวัคซีนให้ถึงมือเกษตรกรโดยทั่วถึงและทันเวลา หากวัคซีนไม่เพียงพอ หรือกระจายไม่ทั่วถึงจะส่งผลเสียหายต่อเกษตรกรอย่างหนัก ทำให้เกษตรกร ได้รับความเสียหายอย่างมาก รัฐบาลล้มเหลวซ้ำซากในการควบคุมโรคระบาดลัมปีสกิน ระบาดรอบที่แล้วเสียหายนับพันล้านบาท การระบาดระลอกใหม่ก็มาเกิดซ้ำขึ้นอีก

“นอกจากนี้ในส่วนของการแก้ไขต้นทุนการปลูกข้าวที่สูงขึ้นนั้น เกษตรกรหลายล้านคนจำเป็นที่จะต้องทำนาต่อไป แต่หวังเพียงว่าราคาข้าวจะสูงขึ้น หากราคาข้าวอยู่ที่ 12 บาทต่อกิโลกรัม ปุ๋ยจะราคาที่ 1,800 บาท ก็ไม่มีปัญหา แต่หากราคาข้าวยังตกต่ำที่ 5.50 บาท เกษตรกรก็คงต้องขายข้าวทั้งน้ำตาต่อไป เกษตรกรฝากคำถามถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ระหว่างชาวนากับนายทุนพลเอก ประยุทธ์รักใครมากกว่ากัน” นายปิยวัฒน์กล่าว