“ตรีชฎา” โต้ “น้องแรมโบ้” คิดก่อนยกย่อง “ประยุทธ์” ผู้นำที่ไร้ความสามารถ ชี้ประเทศป่วยต้องได้หมอเก่งอย่าง “ทักษิณ” มารักษา รัฐบาลไม่เก่งอย่าพยายาม มีแต่จะทำให้สถานการณ์ประเทศแย่ลงกว่าเดิม
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวพาดพิงถึงดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้จัดรายการผ่านทางคลับเฮ้าส์เมื่อคืนที่ผ่านมาโดยระบุว่าเศรษฐกิจพังยับ ประยุทธ์รับมือไม่ไหวว่าเป็นการโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้น เป็นความจริงที่ พล.อ.ประยุทธ์และลูกหาบ รับไม่ได้ หากจะอ้างว่ารัฐบาล “พยายาม” หาทางแก้ปัญหาให้กับประชาชน แต่พยายามมา 8 ปีแล้วนับตั้งแต่ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังอ่อนหัด ซ้ำยังมีความ “พยายาม” อีกด้วยการร่างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะต้นตอของปัญหาอยู่ที่ตัวผู้นำและองคาพยพที่ไม่มีรู้ ความสามารถในการแก้ปัญหา ประชาชนถึงต้องเผชิญกับความลำบากที่หาอนาคตไม่เจอ การออกมาโจมตี ดร.ทักษิณ ของนายชนะศักดิ์ทุกครั้งที่ ดร.ทักษิณ ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ในฐานของอดีตนายกรัฐมนตรีที่คนไทยทั้งประเทศชื่นชอบ นานาชาติให้การยอมรับ เพียงเพื่อต้องการเกาะกระแสความนิยมของประชาชนที่ยังคงมีต่อ ดร.ทักษิณ เท่านั้น ซึ่งตรงกันข้ามกับ พล.อ.ประยุทธื ที่นับวันคะแนนความนิยมเสื่อมลง โพลสำรวจที่นายชนะศักดิ์อ้างถึงน่าจะเป็นโพลทิพย์หรือไม่
นางสาวตรีชฎา ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการที่นายชนะศักดิ์ ระบุว่า โครงการที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ออกมามีหลายโครงการที่จับต้องได้ เช่น โครงการคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ฯลฯ นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่โครงการที่จับต้องได้ แต่เป็นโครงการที่ “จับจ่าย” ได้เพราะประชาชนต้องควักเงินตนเองออกมาจ่ายก่อนจึงจะใช้เงินในโครงการได้ และยังเป็นการ “กู้มาแจก” ไม่ได้แก้ปัญหาให้ประชาชนในเชิงโครงสร้าง และยังใช้งบประมาณสูง อย่างโครงการคนละครึ่ง รวม 4 เฟส ใช้เม็ดเงินไปแล้วกว่า 222,300 ล้านบาท โดยใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท ส่วนการที่ชนะศักดิ์อ้างว่าภาระเศรษฐกิจไทยที่ตกต่ำ เป็นเพราะโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก และเป็นเช่นนี้เหมือนกันทั้งโลก แต่นายชนะศักดิ์เองที่ตามืดบอดมีทัศนคติที่ดีเป็นศูนย์ เพราะในปี 2562 ก่อนการระบาดของโรคโควิด -19 ไม่มีโรคระบาดใหม่เกิดขึ้นในไทย แต่เหตุใดเศรษฐกิจไทยโตรั้งท้ายในกลุ่มประเทศอาเซียน จีดีพีไทยโตเพียง 3.5% ในขณะที่กัมพูชาเพื่อนบ้านเติบโตสูงสุดที่ 6.8% การส่งออกและการท่องเที่ยวหดตัว ภาคเอกชนขาดความเชื่อมั่น และไม่มีความมั่นใจในสถานการณ์การเมืองทั้งที่เป็นของการเลือกตั้ง ก็ล้วนเป็นฝีมือการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งสิ้น
“ถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะยอมรับฟังผู้มีประสบการณ์อย่าง ดร.ทักษิณ ที่เคยสร้างเศรษฐกิจให้ประชาชนในประเทศมีความมั่งคั่ง วันนี้ประเทศป่วย พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องยอมรับว่าป่วย ต้องยอมรักษากับแพทย์ที่มีความสามารถ ถ้าประเทศไทยไม่ถูกยึดอำนาจจนถูกนานาประเทศมองว่าเป็นประเทศแห่งหลุมดำ ประชาชนคงไม่ต้องทนฝืนความลำบากกันนานถึง 8 ปี วันนี้เราไม่ได้ยืนอยู่บนดาวอังคารแต่เรายืนอยู่บนโลกที่มีประชาชนคอยความหวัง การออกมาของนายชนะศักดิ์ ยิ่งสร้างคะแนนติดลบให้กับพรรคพลังประชารัฐ จนต้องทิ้งห่างตามหลังจากพรรคเพื่อไทยไกล เพราะการที่เป็นคนไม่ยอมรับความจริง” นางสาวตรีชฎา กล่าว