อนุสรณ์ จี้ ปิดสวิตช์ ส.ว.

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/2565” ระบุ บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ร้อยละ 25.28 คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 36.36 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย ว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สะท้อนผ่านนิด้าโพล ว่าเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยจะไม่ลิงโลดใจ หรือ ชะล่าใจ จะมุ่งเน้นทำงานหนักเพื่อนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาของประเทศชาติและประชาชน จะให้ความสำคัญกับการผลักดันนโยบายที่ทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น ผ่านนโยบายสำคัญ อาทิ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจอาหารโลกเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารของโลก (food security) พลิกโฉมภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยี ระบบน้ำ ดิน ทุนออกแบบกระบวนการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งระบบ ปรับหนี้เกษตรกร ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ นโยบายหาเสียงพรรคไหนก็ประกาศได้ แต่พรรคที่หาเสียงและประกาศไว้แล้วสามารถทำได้จริงคือพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องไปสำรวจตัวเองและสารภาพความจริงกับประชาชนว่าเหตุใดจึงไม่สามารถผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้ให้เป็นจริงได้เลยทั้งที่เป็นพรรคแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล ถึงเวลาแล้วที่พล.อ.ประยุทธ์ จะปลดปล่อยพันธนาการที่ผูกมัดและฉุดรั้งประชาชน ปล่อยให้ประชาชนได้เลือกนายกรัฐมนตรีผ่านส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนที่ประชาชนเลือกมา การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า ควรเป็นหน้าที่เฉพาะ 500 ส.ส.ที่ยึดโยงและมีที่มาจากประชาชนเท่านั้น พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้เสนอแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ปิดสวิตช์ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีมาหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ เชื่อในประชาชน ขอให้แสดงสปิริตประกาศสัตยาบัน จะแก้ไขรัฐธรรมนูญตัดอำนาจส.ว.โหวตเลือกนายกฯ เพื่อให้ได้นายกฯตามเจตนารมย์ของประชาชนอย่างแท้จริง

“ยิ่งสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งลดต่ำลง สอดรับกับการไร้ผลงาน เวลาที่เหลืออยู่ ควรแสดงสปิริตเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปิดสวิตช์ส.ว.ไม่ให้โหวตเลือกนายกฯ ปล่อยให้เป็นหน้าที่เฉพาะ 500 ส.ส.ผู้แทนของประชาชนโหวตเท่านั้น” นายอนุสรณ์ กล่าว