นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นางสาวทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พาดพิงถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่เป็นเจ้าบ้านที่ดีทำให้การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไร้ศักดิ์ศรีนั้น ความเป็นจริงเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาพี่น้องชาวเชียงใหม่แล้ว การที่พลเอกประยุทธ์ลงพื้นที่ไปการปฏิบัติภารกิจ มีคนมาให้กำลังใจหลักสิบ แต่ใช้ตำรวจหลักพัน แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวต่อเสียงของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ไม่ได้ให้การยอมรับในตัวพลเอกประยุทธ์ที่เป็นผู้นำประเทศมากว่า 8 ปี เรียกได้ว่ามา “ต้อนรับขับไล่” ตรงกันข้ามกับความนิยมของพรรคเพื่อไทย รวมถึงคะแนนความนิยมในตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทยนำลิ่ว ผลโพลของนิด้าโพลล่าสุด ประชาชนสนับสนุนให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด ที่ 25.28% เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนหน้าที่ 12.53% เดินทางไปลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนจังหวัดใดก็มีแต่ประชาชนเข้ามารายล้อมโอบกอด กลายเป็นความหวังครั้งใหม่ของประชาชน แต่คะแนนความนิยมในตัวพลเอกประยุทธ์ อยู่ที่อันดับ4 อยู่ที่ 11.68% เท่านั้น ไปไหนมีแต่คนเอือมระอา ทั้งหมดเป็นความจริงที่นางสาวทิพานัน ต้องยอมรับให้ได้ ไม่ใช่เอาแต่ท่องบทเดิมพูดเหมือนเดิม วนอยู่ในอ่าง หวังด้อยค่าพรรคเพื่อไทยไปเรื่อยๆ แต่คงทำไม่สำเร็จ

นางสาวตรีชฎา กล่าวอีกว่า ความจริงที่ประชาชนทั้งประเทศรู้ดีมาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา หากไม่มีการยึดอำนาจจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประเทศจะไม่มีทางเดินทางมาถึงทางตันซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศต้องรับสภาพเศรษฐกิจติดหล่ม สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุผลให้ทุกครั้งที่พลเอกประยุทธ์เดินทางไปที่ใด ประชาชนดูออกว่าควรทำอย่างไรให้เหมาะสมกับการที่พลเอกประยุทธ์ไปเยือน ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เหนือกว่าความเป็นจริง เหลือเพียงนางสาวทิพานันที่ยังคงสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศต่อ โดยที่ไม่เคยสนใจความทุกข์ยากของประชาชนว่าอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเพียงใด ประชาชนไม่มีเงินในกระเป๋า คนรวยก็รวยกระจุก คนจนก็จนกระจายจะตายกันหมด เกษตรกรทยอยล้มหายตายจากเพราะราคาสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำ ชาวนาขายข้าวได้แสนถูก แต่ข้าวถุงกลับมีราคาสูงขึ้น ค่าปุ๋ยยาปราบศัตรูพืชและวัชพืชแพงขึ้นทวีคูณ น้ำมันแพง แก๊สแพง ของแพงทั้งแผ่นดิน พลเอกประยุทธ์มีแต่ผลงานกู้มาแจกให้ประชาชนแบกรับภาระยันลูกหลาน

“พลเอกประยุทธ์ พูดว่าประเทศไทยเป็นรถยนต์คันใหญ่ขับเคลื่อน 70 ล้านคนไปข้างหน้า หวังกลายเป็นยานยนต์แห่งอนาคต ถ้ารถคันนี้ตายหรือต้องหยุด คนบนรถก็ต้องช่วยกันเข็นไปให้ได้ แต่ตอนนี้รถคันดังกล่าวสภาพผุพังมานานมากแล้ว คนที่อยู่บนรถที่พลเอกประยุทธ์ขับนั้นสาปส่งพลเอกประยุทธ์ให้เดินลงจากรถ เพื่อเปิดทางให้คนที่มีฝีมือมาขับเคลื่อนรถทั้งคันให้ไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น ไม่ใช่ทู่ซี้ขับต่อทั้งที่รถไปไม่ไหว คนไทยทั้งประเทศเห็นทุกอย่างหมดแล้ว คนที่ยังหลับหูหลับตาเชียร์ให้พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศต่อมีแต่นางสาวิพานันและพรรคพวกเท่านั้น” นางสาวตรีชฎา กล่าว