“อรุณี” ถามรัฐบาลใช้งบประชาสัมพันธ์หลายพันล้านสิ้นเปลืองภาษี แนะควรแก้ปัญหาด้วยการทำผลงานประชาชนได้ประโยชน์คือประชาสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

ดร.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ว่าพูดคุยกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม.กรณีการจัดการสายสื่อสาร พร้อมระบุว่ารัฐบาลทำงานมาตลอด แต่ยอมรับว่าประชาสัมพันธ์สู้นายชัชชาติไม่ได้นั้น สะท้อนแนวคิดการทำงานแบบน้ำเต็มแก้ว ของ รมว.ดิจิทัลฯ และรัฐบาลชุดนี้ที่ชอบพูดเสมอว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีผลงานมากมายแต่อ่อนด้อยการประชาสัมพันธ์ประชาชนจึงไม่ทราบ ปัญหาของการบริหารที่ผ่านมาของรัฐบาล หากมองแค่การอ่อนประชาสัมพันธ์คงเป็นการมองปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะต้นเหตุแห่งปัญหาคือผลงานของรัฐบาลและของรมว.ดิจิทัล หากมีผลงานที่ประชาชนจับต้องได้ ต่อให้ไม่ต้องทำการประชาสัมพันธ์ก็จะมีการพูดถึง “ปากต่อปาก” โดยประชาชน ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ยั่งยืน แต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์กลับใช้เงินภาษีของประชาชน ประชาสัมพันธ์นโยบายของภาครัฐต่อปีไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2565 เฉพาะกรมประชาสัมพันธ์ได้งบประมาณ 2,423 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2566 ได้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 70 ล้านบาท เป็น 2,493 ล้านบาท ยังไม่รวมการประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลผ่านกระทรวงและหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งประชาชนเจ้าของภาษีมีสิทธิที่จะตั้งคำถามว่าเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินคุ้มค่าหรือไม่

ในขณะที่ทีมงานถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กเพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามการทำงานของ กทม. โดยผู้ว่าฯกทม.นั้น ใช้ช่างภาพ 1 คน กับโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องเท่านั้น โดยโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ใช้ราคาเฉลี่ย 20,000 บาท หากจะคำนวนเป็นเม็ดเงินต่อปี เมื่อรวมกับเงินเดือนแอดมิน ค่าโทรศัพท์ และค่าเดินทาง ในการถ่ายทอดสดการลงพื้นที่ของผู้ว่าฯกทม. คาดว่าไม่เกิน 7-8 แสนบาทต่อปี ประสิทธิผลที่ได้แตกต่างกันอย่างลิบลับ แต่สิ่งที่ประชาชนเห็นคือ การทุ่มเทแก้ไขปัญหา “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา และทำให้ประสบความสำเร็จ น่าจะเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนอยากได้รับจากรัฐบาลมากกว่าการได้เห็นเพียงแค่การประชาสัมพันธ์เท่านั้น จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า รัฐประชาสัมพันธ์ไม่เป็น หรือไม่มีผลงานให้ประชาสัมพันธ์กันแน่

“แทนที่ รมว.ดิจิทัลฯ และรัฐบาลจะเรียนรู้และแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง และเรียนรู้จากความสำเร็จ รวมทั้งรูปแบบการทำงานของผู้อื่น ไม่ใช่การห่วงจัดอีเวนท์เน้นภาพส่งสื่อแล้วจบไป เพราะสิ่งที่ประชาชนต้องการ คือคนที่ลงมือทำงานจริงจัง ” ดร.อรุณี กล่าว