ไทยแลนด์โฮลลี่ คำพิพากษาศาลปค.ทำสะดุ้งทั้งกระทรวงคค.ชี้รฟม.สีส้มอาจเป็นโฮลเวล์2 เหตุช่วงที่1มีนบุรี -สามวา-ศูนย์วัฒนธรรมสร้างเสร็จแต่เดินรถไม่ได้หลังล้มประมูลผิดกม.

จิรายุ สุดปลื้มหน้าที่ฝ่ายค้านหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจมหากาฬรถไฟฟ้าสีส้มเริ่มเห็นไอ้โม่งทีละคน หลังศาลปกครองกลาง พิพากษาล้มประมูลครั้งแรกระบุ กก.ตาม ม.36 คนที่เอี่ยวกระทรวง คค.ผิดกฎหมายชัดแนะนายกอย่าลอยตัวเพราะงานนี้ ผู้บริหารระดับสูง คค.ต้องรับผิดชอบความสูญเสียหลังสภาพัฒนาฯชี้ปท.สูญเสียไปกว่า5หมื่นล้านบาทหลังไม่สามารถเปิดประมูลได้ ชี้เดินรถไม่ได้ทั้งสายอาจกลายเป็นโฮปเวลล์ 2 ปฑิมากรรม แสนล้านจากภาษีประชาชน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่าการล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ตนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไปเมื่อปีที่2564ผ่านมาใน”ปฏิบัติการ 16 วันทันใจนาย” ซึ่งเป็นผลงานของ การรถไฟฟ้ามหานคร กระทรวงคมนาคมนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแค่ปัญหาของผู้ว่าการ รฟม.หรือแค่คณะกรรมการตามมาตรา 36 ที่ไปล้มประมูล เพราะในการประชุมของคณะกรรมการ ม.36 ที่ไปยกเลิกและไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขเงื่อนไขการประมูล ทั้งๆที่มีผู้แทนจากสำนักงบประมาณและคนอื่นๆทักท้วงหลายครั้งจนถึงกระทั่งวอล์คเอาท์ออกจากที่ประชุมแต่ คณะกรรมการตามมาตรา 36 ซึ่งตนเห็นว่า ที่มาอาจไม่เป็นกลางเพราะส่วนใหญ่เกินครึ่งมาจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคมซึ่งอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน

หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระองค์กรอัยการฯ ได้ประชุมพิจารณาสืบหาข้อเท็จจริง ในเรื่องดังกล่าวตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา และได้ชี้ข้อสังเกตที่ผิดปกติเป็นจำนวนมาก อันเป็นสำนวนพยานประกอบในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบไปแล้ว ซึ่งคำพิพากษาของศาลปกครองกลางเมื่อวานนี้ทำให้เชื่อได้ว่าการประมูลครั้งแรกมีปัญหา ตนจึงขอแนะนำไปยังผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคมและการรถไฟฟ้ามหานครว่า อย่าดื้อควรจะกลับไปใช้การประมูลในครั้งแรกทันที และควรรอฟังคำพิพากษาของศาลอาญาทุจริตฯว่าจะมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง และ กรรมการตามมาตรา 36 และ ผู้บริหาร รฟม.มีความผิดอาจต้องติดคุกกี่คน แต่ตนเชื่อว่าหาก รฟม.จะอุทธรณ์ แต่ก็จะทำให้เกิดปัญหามากขึ้นไปอีก เพราะหากการอุทธรณ์แล้วพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง หรือระหว่างพิจารณาก็ต้องรอคำพิพากษา การเปิดประมูลครั้งใหม่ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ก็จะไม่ชอบด้วยกฎหมายอีก

นายจิรายุ ตนในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาลฯ ได้เรียกข้อมูล เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงจากพยานแวดล้อมจำนวนมาก และจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในกรณีล้มการประมูลครั้งแรกระบุชัดเจน ว่าทำให้ล่าช้าไปอย่างน้อย2ปีซึ่งรายงานตนว่า ทำให้ประเทศสูญเสียไปกว่า 40,000 ล้านบาทแล้ว ก็ยังไม่มีผู้ใดออกมารับผิดชอบ และหากกรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาออกมาเช่นนี้อีก ก็จะยิ่งทำให้การประมูลต้องทอดยาวออกไปอีกอย่างน้อง 1-2 ปี ซึ่งเชื่อว่าน่าจะสูญเสียนับ 100,000 ล้านบาท ที่ประชาชนตั้งแต่มีนบุรีคลองสามวาไปจนถึงศูนย์วัฒนธรรมข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปที่บางขุนนนท์จะสูญเสียประโยชน์มหาศาลจากการเดินทางและ เศรษฐกิจของประเทศ

ตนจึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจังและแก้ไขปัญหาให้รวดเร็วเพราะผู้ประมูลรายใหม่จะต้องเดินรถตั้งแต่มีนบุรีคลองสามวายาวไปจนถึงบางขุนนนท์แต่วันนี้ยังไม่สามารถเปิดประมูลได้ ทั้ๆที่ ส่วนที่ 1 จะเสร็จแล้ว ตนเกรงว่าจะกลายเป็นปติมากรรมบนถนนรามคำแหง แบบ โครงการโฮบเวลล์ และความเสียหายจะตกอยู่กับประชาชนคนไทยทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว