‘ตรีชฎา’ จวก ‘ประยุทธ์’ บ้อท่านโยบายเร่งด่วนแถลงต่อสภาทำไม่ได้ตั้งแต่ข้อแรก ลั่นออกไปอย่าอยู่ต่อพอแค่นี้ คนไทยสุดทนทรมานมา 8 ปีแล้ว

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี โดยตอบปัญหาประชาชนเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาของแพงของรัฐบาลว่าเดี๋ยวก็ดีขึ้นขอให้อดทนหน่อย ซึ่งนายกฯระบุว่าตนก็อดทนไม่ฟุ่มเฟือยนั้น การแสดงความคิดเห็นของคนที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ ภารกิจสำคัญคือการบริหารประเทศ ภายใต้นโยบายที่ประกาศไว้ต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 12 ข้อที่ 1.แก้ไขปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน ข้อ 3.มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับการผันผวนของเศรษฐกิจโลก และเกือบทุกข้อที่พล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศไว้ ล้มเหลวทุกด้าน การที่ใครคนใดคนหนึ่งจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น แบกรับความหวัง ความทุกข์ และต้องสร้างความสุขให้กับประชากรในประเทศให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนเผชิญชีวิตตามยถากรรม อยู่กันแบบตามมีตามเกิด พอประชาชนบอกว่าลำบากผู้นำกลับบอกว่าตัวเองก็ลำบากเหมือนกัน หากพล.อ.ประยุทธ์ ทำได้เพียงเล่าเรื่องชีวิตตัวเองมาบอกกับประชาชน คนไทยไม่จำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรี เพราะการเป็นนายกฯไม่ใช่งานที่สบายอยู่แล้ว ต้องทำงานหนักรับใช้ประชาชน

ไม่ต้องไปดูอื่นไกล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีเหตุไฟไหม้น้ำท่วมตรงไหน ก็ไปถึงที่เพื่อร่วมด้วยช่วยแก้ปัญหาทุกจุด และยังอยู่ร่วมทุกข์กับประชาชน จนประชาชนบอกว่านายชัชชาติไม่เหมาะเป็นผู้ว่าฯ แต่เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีมากกว่า หากสังคมมีความเห็นเช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ หากไม่รู้สึกละอาย อย่างน้อยก็ควรจะสำนึกบ้าง ว่าประชาชนไม่เอาท่านแล้ว

ขณะเดียวกันสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ต้องแก้ปัญหาให้กับประชาชน เช่น เรื่องน้ำมันแพง แก๊สแพง แต่พอประชาชนถามว่าเหตุใดน้ำมันประเทศเพื่อนบ้านราคาถูก แต่ท่านก็ตอบแบบคนไม่รู้ว่าอย่าไปเทียบกับประเทศเมียนมา หรือมาเลเซีย เพราะมีการบริหารคนละแบบกับไทยและมีแหล่งพลังงานที่มากกว่า และไทยซื้อทั้งแก๊สและน้ำมันจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่ความจริงประเทศเพื่อนบ้านต่างหากที่ซื้อน้ำมันจากไทย และประเทศไทยกลับขายน้ำมันให้ประเทศเพื่อนบ้านราคาถูกมาก แต่คนไทยกลับได้ใช้น้ำมันราคาแพง มีเพียงแก๊สเท่านั้นที่ไทยสั่งจากพม่า ทั้งนี้วันนี้ประชาชนเจอสินค้าแพงหนัก สินค้าอุปโภคบริโภคทยอยปรับขึ้นราคา แต่คนเป็นนายกรัฐมนตรีบอกกับประชาชนได้เพียงแค่ให้ประหยัดอย่าฟุ่มเฟือย ในความเป็นจริงประชาชนไม่มีเงินแล้ว ค่าแรง 300 กว่าบาท ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่ปรับขึ้น ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิน แพงจ่ายเองทุกวัน ต่างจากพล.อ.ประยุทธ์เงินเดือนเรือนแสน น้ำไฟฟรี น้ำมันฟรี รถฟรี จากภาษีประชาชน จึงไม่รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อน

“จะให้ประชาชนทนไปถึงไหน 8 ปียังอดทนไม่พอหรือ ทางลงที่ดีที่สุดของพล.อ.ประยุทธ์ คือ วันที่ 23 สิงหาคมนี้ ครบ 8 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง 8 ปีแห่งความทรมานของประชาชน หากท่านอยากสบายให้กลับไปอยู่บ้าน ประชาชนจะได้สบายและมีอนาคต” นางสาวตรีชฎา กล่าว