“ตรีชฎา” แนะรัฐอย่าเป็น ‘ผู้ใหญ่รังแกเด็ก’ ไม่รีบออกกฎหมายควบคุมกัญชา แนะเร่งทำก่อนสาย กลายเป็นอาชญากรรมการเมืองต่อเยาวชน
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่รัฐบาลปลดล็อกกัญชา กัญชง ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษแม้รัฐบาลจะออกมาย้ำว่าเป็นการปลดล็อคเพื่อรักษาโรคก็ตาม แต่สิ่งที่น่าห่วงสุดคือเยาวชน เพราะยังไม่มีกฎหมายควบคุมออกมาบังคับใช้ ปัจจุบันประชาชนทั่วไป บริษัท หรือหน่วยงานราชการ สามารถปลูกกัญชา กัญชง อย่างแพร่หลายกระจายกว้าง แม้บางส่วนแจ้งข้อมูลการปลูกให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ แต่อาจมีบางส่วนเล็ดลอด จากการที่ไม่มีกฎหมายควบคุม จึงไม่สามารถดำเนินการจัดการกับผู้ที่ลักลอบกระทำการนอกการควบคุมได้ แต่สิ่งที่ตามมาที่หลายฝ่ายเห็นตรงกันคือกัญชาส่งผลต่อเด็กและเยาวชน ตัวเลขจากศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) พบว่าเยาวชนสูบกัญชาสูงขึ้นราว2 เท่า และผลเบื้องต้นพบการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวกับสารเสพติดทั้งหมดยกเว้นสุราและบุหรี่ว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 29.56%
นางสาวตรีชฎา กล่าวอีกว่า แม้หลายฝ่ายจะออกมาเตือนและเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออกระเบียบหรือกฎหมายควบคุมการใช้ กัญชาอย่างเร่งด่วน แต่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานในสังกัดกลับเมินเฉย ซ้ำยังเดินปล่อยให้มีการจัดมหกรรมกัญชาหลายงาน เช่น มหกรรมราชาสมุนไพร @ศรีราชาครั้งที่ 2 ในวันที่11-14 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ หรือแม้แต่การวางแผนจัดงานพันธุ์บุรีรัมย์ Vol.2 ในวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2565 รวมไปถึง งานกัญชง-กัญชานานาชาติ Asia International HEMP and Cannabis Expo 2022 ในวันที่ 30 พฤศจิกายน. – 2 ธันวาคม 2565 เป็นต้น ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลชะลอการจัดงานลักษณะเังกล่าวนี้ออกไปก่อน จนกว่าจะมีการออกกฎหมายมาควบคุมการใช้อย่างถูกต้อง เพราะไม่เช่นนั้นจากประโยชน์จะกลายโทษอย่างมหันต์ต่อเด็กและเยาวชน จนอาจถูกมองว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กได้
“พรรคภูมิใจไทยและรัฐบาลอย่าท่องแต่คาถา ‘รัฐไม่ได้สนับสนุนให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ’ เพราะแม้รัฐไม่สนับสนุน แต่การไม่ป้องกันการเข้าถึงกัญชาอย่างรอบคอบ จะทำให้เด็กเยาวชนกลุ่มเปราะบางเข้าถึงกัญชาโดยง่ายเพราะนายอนุทินพูดเองไม่ใช่หรือ ว่าพี้กัญชาในบ้านได้เลย แต่อย่าไปพี้กัญชานอกบ้าน คำถามคือในเมื่อต้นกัญชาอยู่หลังบ้านและเปิดทางว่าเสพในบ้านได้จะทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงกัญชาโดยง่าย แล้วรัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร” นางสาวตรีชฎา กล่าว