เตือน ‘ประยุทธ์’ ดื้อเป็นนายกฯ ต่อเกิน 8 ปี เสี่ยงผิดกฎหมาย ทำลายประชาธิปไตย วงเสวนา ‘เพื่อไทย’ ซัดลุแก่อำนาจ ไม่เห็นหัวประชาชน ไร้สำนึกรับผิดชอบ

พรรคเพื่อไทย จัดงานเสวนา ‘8 ปี ประยุทธ์ อยากไปต่อ แต่ต้องพอแค่นี้’ นำโดย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานด้านการเมือง รัฐธรรมนูญ ความเป็นประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยมี นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ดำเนินรายการ ทั้งนี้ผู้ร่วมเสวนาเห็นตรงกันว่า หากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี จะขัดทั้งหลักกฎหมาย ขัดต่อเจตนารมณ์ตามบันทึกการประชุมของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ และยังเป็นการทำลายวัฒนธรรมประชาธิปไตย อีกทั้งยังเสี่ยงทำให้เกิดการประพฤติมิชอบและลุแก่อำนาจต่อ แต่ต้องพอแค่นี้’
.
นายสุทิน คลังแสง กล่าวว่า การที่กฎหมายจำกัดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นมีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งใช้อำนาจสั่งสมอิทธิพล ซึ่งในต่างประเทศแม้บางประเทศจะไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญ แต่จะถือเป็นวัฒนธรรมทางการเมืองและประชาธิปไตย ดังนั้นเมื่อเป็นนักการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรีก็ควรทำการเมืองเกิดความชัดเจน โปร่งใส ใส่ใจประชาธิปไตยทั้งในฐานะโครงสร้าง คือ ตัวบทกฎหมายและใส่ใจทั้งวัฒนธรรมประชาธิปไตย คือ ความรู้สึกสำนึกผิดชอบ แต่วันนี้พลเอกประยุทธ์ ละเมิดทั้งหมด ทั้งโครงสร้างประชาธิปไตย ละเมิดกฎหมาย ละเลยไม่ใส่ใจความรู้สึกสำนึกผิดชอบ ไม่สนใจความรู้สึกประชาชน
.
“ถ้าหลังวันที่ 24 สิงหาคมนี้ พลเอกประยุทธ์ยังดำรงตำแหน่งอยู่ ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้ว่าคุณได้ฉีกกฎหมาย ฉีกวัฒนธรรมประชาธิปไตย คุณประยุทธ์อาจอยู่ต่อได้แต่ประชาธิปไตยจะอยู่ไม่ได้” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
.
นายชูศักดิ์ ศิรินิล กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2550 กำหนดให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีติดต่อกันเกิน 8 ปีไม่ได้ จากนั้นมีผู้ตีความว่าถ้าไม่ดำรงตำแหน่งติดต่อกันแต่มีเว้นวรรค ก็สามารถเกิน 8 ปีได้ ดังนั้นในรัฐธรรมนูญ 2560 จึงเขียนให้ชัดเจนมากขึ้นในมาตรา 158 ว่าห้ามดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีไม่ว่าจะติดต่อกันหรือไม่ เพื่อป้องกันมิให้นายกรัฐมนตรีลุแก่อำนาจ ดังนั้น ถ้าภายหลังวันที่ 24 สิงหาคมนี้พลเอกประยุทธ์ยังอยู่ในตำแหน่ง ในแง่กฎหมาย ก็ต้องร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีคำวินิจฉัย แต่ในส่วนของเรื่องเจตนารมณ์จากบันทึกของผู้ร่างรัฐธรรมนูญก็ปรากฎชัดแล้วว่านายกรัฐมนตรีไม่สามารถดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีได้
.
“กฎหมายกำหนดไว้ชัด ถ้านายกรัฐมนตรีพ้นไปจากตำแหน่ง ก็ต้องรักษาการต่อ เขาก็มีกระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามขั้นตอน มีคนอื่นเข้ามาทำหน้าที่อยู่ดี ไม่ใช่มีเพียงพลเอกประยุทธ์ คนเดียวที่จะทำหน้าที่นี้ได้” ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย กล่าว
.
นายจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวว่า กรณีที่มีผู้พยายามอ้างว่าหากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องนี้ไว้วินิจฉัยแล้ว ก็ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ เพราะถือเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาวินิจฉัย แต่ในข้อเท็จจริงคือแม้เรื่องจะอยู่ในกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนก็ควรจะสามารถวิจารณ์ด้วยเหตุผลอย่างเต็มที่ได้ เพราะเราไม่ได้ไปกล่าวว่าร้ายอะไร แต่เราต้องการแสดงความเห็นโดยชอบธรรมด้วยเหตุด้วยผล จึงควรที่จะพูดได้ ไม่ควรมีใครมาอ้างศาลเพื่อปิดปากประชาชนไม่ให้พูด