นายปิยวัฒน์ พันธ์สายเชื้อ ส.ส. ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตลอด 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบว่า ปัญหาของประชาชนและของพี่น้องเกษตรกรถูกละเลย รวมทั้งถูกเมินจากรัฐบาล โดยสิ้นเชิงปล่อยให้เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบ จากนายทุนหนุนรัฐบาลรายใหญ่ ที่ผ่านมารัฐบาลออกนโยบายหลายอย่างไปสร้างความมั่งคั่งให้เจ้าสัวใกล้ชิด บนคราบน้ำตาประชาชน

โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกข้าว รัฐบาลใช้นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ปล่อยให้นายทุนค้าข้าวรับซื้อราคาข้าวเปลือกสูงสุดไม่เกิน 6.00 บาท ต่อกิโลกรัม ขายข้าวเปลือก 1 กิโลกรัมซื้อมาม่าได้ซองเดียว ในขณะที่ ราคา ข้าวสารขายกิโลล่ะ 40-45 บาท ชี้ให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำที่ขยายตัวมากขึ้น ซึ่งถ้ารัฐบาลมีความจริงใจช่วยเกษตรกรก็สามารถกระทำได้แต่เลือกที่จะไม่ทำมากกว่า

นายปิยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ปี 2566 รัฐบาลจัดสรรงบกลาง มากกว่า 90,000 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อนำตัวเลขงบกลางตลอดอายุของรัฐบาล “ประยุทธ์ 2” มารวมกัน จะพบว่าพลเอกประยุทธ์ใช้งบประมาณกลางสูงถึง 2,311,262.4 ล้านบาท หากนำมาช่วยเหลือเกษตรกรความเป็นอยู่ของเกษตรกรคงดีกว่าแน่ แม้แต่ช่วงเกิดโรคลัมปี้สกินระบาดในวัวพลเอกประยุทธ์ปล่อยให้เกษตรกรรอเงินชดเชยนานข้ามปีได้อย่างไร ทำไมไม่ใช้งบกลางไปช่วยแต่พอกองทัพอยากได้ รถถังพร้อมอนุมัติงบกลางทันที อ้างจำเป็นเร่งด่วนแต่ความเดือดร้อน ของประชาชนไม่จำเป็นเร่งด่วนหรืออย่างไร

“ 8 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยไร้อนาคตมานานแล้ว พอเถอะครับ พลเอกประยุทธ์ ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งต่อไป เพื่อสร้างหายนะให้กับประชาชน ปัญหาของพี่น้องเกษตรกรไม่เคยได้รับการเหลียวแล พลเอกประยุทธ์ไม่เคยให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้น ผลที่ออกมาคือ 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์คือหายนะของประเทศไทยอย่างแท้จริง คือ 8 ปีแห่งความทุกยากข์ ความลำบากของคนไทย พลเอกประยุทธ์เสวยสุขบนความทุกข์ ของประชาชนมานานแล้ว ควรพอได้แล้ว อย่าอยู่สร้างหายนะให้ประเทศต่อไปอีกเลย หมดเวลาเสวยสุขแล้ว” นายปิยวัฒน์ กล่าว