“เพื่อไทย” ชี้ประยุทธ์ ไม่เคยสนใจประชาชนที่ถูกโกง ไม่แก้ปัญหา ไม่เยียวยา
นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเลย เขต 2 และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ย้ำถึงปัญหาการช่อโกงประชาชน ที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและสร้างความเสียหายต่อทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจอย่างเป็นวงกว้าง ปัญหาการหลอกลวง การช่อโกงประชาชน ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย สิ่งที่น่าใจหายคือ ปัญหาดังกล่าว ดูเหมือนจะยังทวีความรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งทำให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้าหาประชาชนได้มากมายหลายช่องทางมากกว่าแต่ก่อน ประสานกับความไม่เอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหาและคุ้มครองประชาชนของภาครัฐ ทำให้มีประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อ สูญเสียทรัพย์สิน อีกทั้งยังกระทบความเชื่อมั่นในภาพรวมของประเทศ จากการที่มีกลุ่มมิจฉาชีพจากต่างชาติเข้ามาทำการหลอกลวงมากขึ้น แต่รัฐบาลก็ยังคงไม่สนใจ ไม่ตั้งใจแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
หลังจากเกิดการถกเถียงประเด็นดังกล่าวในสังคมมากขึ้นจากภาคประชาชน สิ่งที่รัฐบาลทำคือ ทำการโปรโมต ประชาสัมพันธ์ ออกคำเตือนประชาชน แต่กลับไม่มีความพยายามในการจัดการปัญหาอย่างชัดเจน เห็นได้จาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น สอท หรือ ปอท ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกลับไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากทั้งขาดกำลังพล ขาดอุปกรณ์และผู้มีความรู้เฉพาะทาง ในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่กลับมุ่งความสนใจและกำลังพลในการปิดปาก และต่อต้านข่าวที่เป็นผลเสียกับรัฐบาล เรื่องเหล่านี้ยิ่งเห็นได้ชัด หลังจากได้ดูรายละเอียดในเอกสารงบประมาณปี 66 ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ในสภาขณะนี้ หน่วยงานและโครงการซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา และรับปัญหาของประชาชนผู้ถูกโกงผ่านช่องทางต่างๆ กลับเป็นโครงการที่ถูกปรับลด แต่โครงการที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องรัฐบาล กลับได้งบประมาณเต็ม ทั้งที่ไม่สามารถแสดงผลการทำงานได้อย่างเหมาะสม ตอกย้ำให้เห็นว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการรักษาอำนาจของตน มากกว่าความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชน
อีกทั้งรัฐบาลยังไม่เคยมีแผนรองรับ หรือช่วยเหลือประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของขนวนการหลอกลวงจากวิธีต่างๆ ซึ่งเราเห็นได้จากการที่ ไม่ว่าคดีการช่อโกงจากวิธีการใดก็ตาม เช่น กรณี Forex3d วงแชร์ต่างๆ หรือการหลอกให้ลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ถึงแม้คดีจะถึงที่สิ้นสุด มีคำตัดสิน มีการรวบรวมมูลค่าความเสียหายของแต่ละคดีไม่ว่าจะเป็นหลักร้อยล้านหรือพันล้าน แต่ประชาชนผู้ตกเป็นเหยื่อก็แทบไม่มีโอกาสจะได้ทรัพย์สินที่สูญเสียไปคืน หรือแม้แต่ความช่วยเหลือจากรัฐก็ไม่เคยมี เพราะว่าหน่วยงานไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวได้ ซึ่งก็เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลไม่เคยตั้งใจในการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ทำให้หน่วยงานที่ควรต้องรับผิดชอบไม่สามารถทำงานได้ ผลสุดท้ายความเสียหายที่เกิดจากความไม่เอาไหลและไม่ใส่ใจของรัฐบาล ก็ตกกับประชาชน ในยุคสมัยที่การบริหารประเทศล้มเหลวในทุกด้าน ประชาชนกลับต้องเจอกับขบวนการหลอกลวงที่สร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดนที่ผู้นำรัฐบาลไม่สนใจแก้ไข สนใจแต่หาทางโกงเวลา ยืดอายุการอยู่ในอำนาจของตัวเองเพียงอย่างเดียว