‘ตรีชฎา’ นับถอยหลังไล่ส่ง ‘ประยุทธ์นายกฯ 8 ปี’ ฝืนบทบัญญัติ รธน.เหตุเสพติดอำนาจไม่สนคนไล่
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะอยู่ในตำแหน่งนายกฯครบ 8 ปีในวันที่ 23สิงหาคม 2565 เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ทำรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จากนั้นก็ตั้งพรรคพวกตัวเองมาเขียนรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 กำหนดให้มีแม่น้ำ 5 สาย หนึ่งในนั้นคือ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้ สนช.โหวตตัวเองเป็นนายกฯ เริ่มนับหนึ่งในวันที่ 24 สิงหาคม 2557 และเป็นนายกฯเรื่อยมา สืบทอดอำนาจจนมาถึงหลังเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 จนถึงทุกวันนี้
นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 264 ในบทเฉพาะกาล บัญญัติว่า “ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่ ..” นั่นหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาก่อนรัฐธรรมนูญนี้ประกาศใช้ จึงเป็น “นายกรัฐมนตรี” ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 แล้ว ดังนั้น พลเอกประยุทธ์จึงเป็น นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้
และยิ่งตอกย้ำความจริงที่สอดคล้องกันกับกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลเอกสารบันทึกการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุดของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561 ที่มีการหารือเรื่องการนับวาระนายกฯ หากดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญปี 2560 บังคับใช้ ซึ่งนายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธาน กรธ. และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.บอกว่าต้องนับรวม ยิ่งเป็นการยืนยันว่า หากเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ เท่ากับว่าพลเอกประยุทธ์จะดำรงดำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีเต็มในวันที่ 23สิงหาคม 2565 ดังนั้น พลเอกประยุทธ์คือนายกฯ 8 ปี
“พล.อ.ประยุทธ์เคยได้ยินสำนวนไทย ‘กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง’ หรือไม่ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ มักอ้างแบบข้างๆคูๆ เอาสีข้างเข้าถูให้คนเขารุมถอนหงอกอยู่ ทุกวัน พล.อ.ประยุทธ์ ควรคิด วิเคราะห์ แยกแยะว่า ตัวเองและครอบครัว มีความสุขนักหรือที่ถูกชาวบ้านชุมนุมประท้วง ตะโกนด่าขับไล่ให้ออกไปจากตำแหน่ง หรือเพราะเป็นคนเสพติดอำนาจชนิดเรื้อรัง รักษาไม่หายกันแน่” นางสาวตรีชฎา กล่าว