‘ชนินทร์’ จวกรัฐปล่อยแกงค์คอลเซ็นเตอร์ตุ๋นชาวบ้าน จี้ ‘ตำรวจไซเบอร์’ โชว์ผลงานบ้าง อย่าเป็นแค่ศูนย์รับแจ้ง

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึงสถานการณ์อาชญากรรมทางออนไลน์ในประเทศที่กำลังเหิมเกริมอย่างหนัก ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนขัดสน ชักหน้าไม่ถึงหลังว่า มีสาเหตุหลักมาจากความเชื่องช้าไร้ประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาล ที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ปล่อยให้ประชาชนต้องรับมือกับอาชญากรเหล่านี้ตามยถากรรม ทุกวันนี้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ กลับมีผลงานเด่นเรื่อง “การรับแจ้งความ” มากกว่า “การปราบปราม” โดยมีการรับเรื่องร้องเรียนอาชญากรรมทางออนไลน์ต่างๆวันละหลายร้อยราย รวมเป็นหลายหมื่นกรณี แต่กลับไม่เห็นผลงานการจับกุมดำเนินคดี หรือปราบปรามได้เท่าที่ควร ประชาชนยังต้องทนทุกข์กับอาชญากรรมออนไลน์ต่างๆที่นับวันยิ่งมีพัฒนาการการหลอกลวงที่แนบเนียนมากขึ้น ทั้งการหลอกขโมยข้อมูลผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลวงให้เข้าสู่ระบบพนันออนไลน์ การหลอกปล่อยกู้นอกระบบ รวมไปถึงการหลอกลวงให้เข้าสู่แชร์ลูกโซ่แบบเก่าๆที่พัฒนามาเป็น แชร์คริปโต ที่สร้างความเสียหายภายในระยะเวลาสั้นๆไปแล้วหลายพันล้านบาท

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า อาชญากรทางไซเบอร์มักใช้ช่องว่างของการควบคุมดูแลของรัฐที่หละหลวมไม่เอาจริง หลอกลวงประชาชน หากปล่อยปละละเลยไปในระยะยาวจะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการปรับตัวเข้าสู่เข้าสู่ยุคสมัยของเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ “Digital Economy” และประเทศไทยจะเสียโอกาสในการผลักดันการเป็นผู้นำการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในอาเซียนที่คาดการณ์มูลค่าสูงถึงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 10 ปีข้างหน้าได้ ตลอดจนสูญเสียความเชื่อมั่นในการผลักดันระบบราชการให้ไปเป็น e-government ด้วย จึงขอเรียกร้องให้รัฐดำเนินการในระยะสั้น ดังนี้

  1. กำกับดูแล ‘ตำรวจไซเบอร์’ อย่างใกล้ชิด มิให้เป็นแค่หน่วยงานที่มุ่งรับเรื่องร้องเรียน แต่ต้องเร่งสร้างผลงานการปราบปรามและประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชน
  2. เร่งส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ระบบฐานข้อมูลตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID และระบบบัญชีทางการ หรือ Official Account ให้แพร่หลาย เพื่อให้ธุรกรรมทางออนไลน์ต่างๆตรวจสอบและติดตามได้
  3. ประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนต่างๆ ในการร่วมควบคุม คัดกรอง และตั้งมาตรฐานที่รัดกุมขึ้น เพื่อลดโอกาสในการใช้แพลตฟอร์มเหล่านั้นเป็นช่องทางก่ออาชญากรรม

“การก้าวสู่ยุคสมัยดิจิทัล ประเทศไทยต้องการผู้นำที่รู้เท่าทันเทคโนโลยี คิดอ่านฉับไว และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก ผมขอเรียกร้องให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ต้องเร่งแสดงผลงานการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ อย่าเชื่องช้าเฉกเช่นสมัยพลเอกประยุทธ์ เพราะนับวันมีแต่ประชาชนที่ต้องเสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” นายชนินทร์กล่าว