“ตรีชฎา” ทิ้งบอมบ์รัฐบาลพี่น้อง 3 ป. บ้อท่า รมว.พาณิชย์หายตัว สิ้นปัญญาแก้ของแพง ทำ ปชช.หนี้ท่วมหัว เกษตรกรลำบาก เหตุรัฐบาลทิ้งคนไทยไว้ข้างหลัง
น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ชีวิตของประชาชนในระหว่างที่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่สำหรับประชาชนที่ต้องอยู่อย่างทรมานกับระบอบประยุทธ์ มา 8 ปี ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน เป็น ‘ชีวิตขาขึ้น’ ของแพงขึ้นทุกอย่างโดยไม่มีหนทางแก้ไข เช่น อาหารสด เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ข้าวราดแกง ราคาแก๊สหุงต้ม ค่าไฟที่ขึ้นสูงถึง 4.72 บาทต่อหน่วย อาหารกระป๋อง แม้แต่ทางรอดสุดท้ายของประชาชนคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังขึ้นราคา ลามมาถึงค่าปรับจราจรยังเพิ่มขึ้นหลายเท่า นอกจากของแพงแล้วยังจมหนี้ เพราะหนี้ครัวเรือนไทยสิ้นปี 2565 จากการประเมิณของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดไว้ อาจเพิ่มขึ้นเป็น 89.3% หรือ 14.97 ล้านล้านบาท ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 16 ปี สินค้าอุปโภคบริโภคภายใต้รัฐบาลยุคนี้แพงไปหมดทุกอย่าง ทั้ง เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ข้าวราดแกง ราคาแก๊สหุงต้ม ค่าไฟที่ขึ้นสูงถึง 4.72 บาทต่อหน่วย อาหารกระป๋อง แม้แต่ทางรอดสุดท้ายของประชาชนคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังขึ้นราคา ปัญหาค่าครองชีพที่เกิดขึ้น แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่กุมบังเหียนดูแลราคาสินค้ากลับหนีหาย ทั้งที่เคยโพสต์เฟสบุ๊คโจมตีรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2556 ว่าผีอีแพง แต่ตอนนี้คำกล่าวนี้ได้กลับมาหลอกหลอนท่านแล้ว ไม่ออกมาสำรวจราคาสินค้า เหมือนตอนที่โจมตีรัฐบาลเพื่อไทย เพราะมัวแต่ฟื้นสัญญาณชีพพรรคตนเองที่อาการหนัก เลือดไหลออกไม่หยุด จนทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา เคยอภิปรายไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ โชว์หลักฐานเรื่องอหิวาห์แอฟริกาในสุกรหรือโรค ASF ว่าที่รัฐบาลพยายามชี้แจงว่าควบคุมโรคระบาดในไทยได้สำเร็จนั้นไม่เป็นความจริง เพราะจนถึงปัจจุบัน โรคระบาดยังส่งผลกระทบทำให้ราคาหมูดีดตัวสูงขึ้นส่งผลต่อเนื่องมายังพ่อค้า แม่ค้า และดันราคาอาหารพุ่งชนิดเท่าตัว ราคาสินค้าที่แพงขึ้น ยังสวนทางกับค่าแรงที่ให้สัญญากับประชาชนในตอนหาเสียงปี 2562 ว่าค่าแรงจะอยู่ 400-425 บาท แต่เท่าที่ผ่านมาค่าแรงขึ้นแค่ 5-6% เท่านั้น ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยยังไม่พอข้างราดแกงหนึ่งจาน แบบนี้ประชาชนจะอยู่ได้อย่างไร
นอกจากนี้ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งถือเป็นต้นทางของห่วงโซ่อาหาร ราคาสินค้าเกษตรยังตกต่ำ ซ้ำร้ายรัฐบาลยังปล่อยให้สินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาแย่งชิงตลาด จนทำให้เกษตรกรในประเทศมองตาปริบๆ เพราะไม่สามารถขายสินค้าเกษตรได้ราคาดี เหมือนแต่ก่อน เช่น หอมแดง กระเทียม ขิง ที่ลักลอบเข้ามาเส้นทางธรรมชาติ หากรัฐบาลไม่ตรวจตราอย่างเข้มงวดเรื่องการลักลอบขนส่งหอมแดงข้ามชายแดนมาไทย จะส่งผลต่อราคาหอมแดงศรีสะเกษที่กำลังจะออกสู่ตลาดในเร็ววันนี้ อเพราะขณะนี้ราคาขิงตกต่ำ เหลือกิโลกรัมละ 1 บาทเท่านั้น แบบนี้คงซ้ำรอยพืชผลการเกษตรอื่นๆ ที่ต้องปล่อยให้ตายดีกว่าเก็บเกี่ยวขาย เพราะมีต้นทุนการเก็บได้ไม่คุ้มเสีย แบบนี้เกษตรกรคงไม่ไว้ใจให้พรรคร่วมรัฐบาลและพี่น้อง 3 ป.มีที่ยืนในสังคม เพราะถ้ากลับมาพัวพันเป็นรัฐบาลอีก ประชาชนกลับมาจมทุกข์อีกแน่นอน