“จักรพล” ชี้ ท่องเที่ยวไทย รัฐบาลมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ค้านค่าเหยียบแผ่นดิน


 นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยอยู่นั้น กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยคาดว่าการศึกษาทั้งหมดจะแล้วเสร็จประมาณสิ้นเดือนกันยายน จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ คาดว่าจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมได้ราวต้นปี 2566 และเข้าใจว่าค่าเหยียบแผ่นดินอาจจะมีการคิดหลายอัตราอีกด้วย
 
นายจักรพล กล่าวต่อว่า แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลคงเอาจริงกับการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามการกระทำของรัฐบาลนั้นได้นำมาสู่ข้อสงสัยทั้ง 3 ประการ ดังนี้ ข้อสงสัยที่ 1 ทำงานของรัฐบาลไร้ซึ่งความพร้อม รัฐบาลมีการประกาศการเงินค่าเหยียบแผ่นดินตั้งแต่ต้นปี แต่ก็เลื่อนมาตลอด ส่วนนึงอาจจะมาจากการขับเคลื่อนด้วยการด่าจากประชาชน แต่อีกส่วนนึงมาจากการทำงานที่ไร้ความพร้อมของรัฐบาล เพราะในความเป็นจริงรัฐบาลควรมีการศึกษา วิจัย สอบถามความเห็นของประชาชนก่อน หลังจากนั้นก็ทำประชาวิจารณ์ และดำเนินตามขั้นตอนต่างๆตามที่กฎหมายกำหนด แต่ทั้งนี้หากเจาะเข้าไปในใส้ในพบว่า การศึกษาเรื่องนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทางอากาศเพิ่งเสร็จลง ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาทางบกอยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าการศึกษาทั้งหมดจะแล้วเสร็จประมาณสิ้นเดือนกันยายน นั่นหมายความว่าการดำเนินการมาตรการของรัฐไร้ซึ่งข้อมูลที่แท้จริง ข้อสงสัยที่ 2 นโยบายของรัฐบาลจะสร้างต้นทุนในการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทุกวันนี้วิกฤติเงินเฟ้อยังไม่เบาบางลง วิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ยังระอุ และยังมีวิกฤติพลังงานที่เข้ามาอีก ทั้งนี้จะเพิ่มต้นทุนให้กับผู้ประกอบการมากขึ้น ผู้บริโภคก็จะต้องใช้จ่ายมากขึ้นแม้จะซื้อสินค้าเท่าเดิม และหากมีมาตรการนี้อีกก็จะเพิ่มต้นทุนในการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวมากขึ้น เท่ากับว่ารัฐบาลไล่นักท่องเที่ยวทางอ้อมหรือไม่ ข้อสงสัยที่ 3 มาตรการดังกล่าวจะเป็นการสร้างผลกระทบทางผลลบต่อจิตใจนักท่องเที่ยวหรือไม่ ทางกระทรวงอาจมองว่าค่าใช้จ่ายในการเยียวยาหรือดูแลของนักท่องเที่ยวด้านสาธารณสุขเป็นภาระให้กับทางงบประมาณ แต่ นักท่องเที่ยว คือ ผู้สร้างรายได้ให้กับประเทศ การที่รัฐบาลมีมาตรการบังคับเก็บเงินแบบนี้จะสร้างความบั่นทอนจิตใจของนักท่องเที่ยวหรือไม่?
 
นายจักรพล กล่าวเพิ่มว่า เพื่อไทยขอเสนอทางแก้ไขเบื้องต้นคือ การทำทางเลือกประกันภัย ประกันชีวิต หรือประกันแบบอื่นๆ ให้กับนักท่องเที่ยว แล้วทำการตลาดให้นักท่องเที่ยวซื้อประกันตามความเหมาะสมดีกว่า เพราะเราจะโน้มน้าวนักท่องเที่ยว (Persuade) แทนที่จะไปบังคับเก็บเงิน (Enforcement) ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่หนักใจ ไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ มีตัวเลือกประกันมากมาย และสร้างความสบายใจให้แก่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจะรู้สึกปลอดภัย ผู้ประกอบการมีความมั่นใจในบริการ ประเทศมีรายได้เพิ่ม แรงงานมีตลาดรองรับ มาตรการทั้งหมดนี้ควรที่จะดำเนินการมากกว่าไปบังคับเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวด้วยซ้ำ
 
“ทั้งหมดนี้กล่าวมานี้ คือ พฤติกรรมที่เรียกว่า “รัฐบาลมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” ที่แท้จริง รัฐบาลควรมองถึงความสามารถในการบริหารประเทศของตัวเองและฟังเสียงของประชาชนมากกว่า แทนที่จะคิดไปเองและตัดสินใจโดยไม่ฟังเสียงประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยนำประชาชนเข้ามาในสมการเพื่อออกนโยบายและแก้ไขปัญหาเลย คิดแทนประชาชนไปซะทุกเรื่อง ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองไร้ความสามารถในการบริหารแต่ยังไม่คิดที่จะให้ใครมาช่วยหรือฟังเสียงคนรอบข้างให้มากขึ้น นอกจากนี้จะเห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลยังสร้างบาดแผลและกดหัวประชาชนอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่วายคิดจะอยู่ต่อ ไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศแล้วยังไม่มีจิตสำนึกต่อประชาชนด้วย ในนามของพรรคเพื่อไทยขอคัดค้านการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินและคัดค้านการอยู่ต่อของรัฐบาล เพื่อเปิดทางให้ประชาชนได้พบกับสิ่งที่ดีกว่า” นายจักรพลกล่าว