‘ชญาภา’ ตอก ‘ชนะศักดิ์’ ชี้คนอยู่เบื้องหลังเพื่อไทยคือ ‘ประชาชน’ ครอบครัวเพื่อไทยเชียงใหม่ผลตอบรับล้นหลาม อยากได้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล เอือมรัฐบาล ‘ประยุทธ์’ ทำคนจนล้นประเทศ
นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี วิพากษ์วิจารณ์คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ในการเดินทางมาให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ในกิจกรรม “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า นายชนะศักดิ์อย่ามองโลกแต่ในแง่ร้าย ทัศนคติเป็นลบ การที่คุณหญิงพจมาน มาให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร ในฐานะแม่ให้กำลังใจลูก คือเรื่องปกติของคนในครอบครัวที่แสดงความรักและความห่วงใยต่อกัน ไม่ใช่เรื่องของการเล่นการเมือง ซึ่งไม่แน่ใจว่าวัฒนธรรมในครอบครัวของนายชนะศักดิ์เป็นอย่างไร แต่ไม่ควรนำเอาความคิดในเบื้องลึกของตนเองโดยคิดว่าผู้อื่นจะเป็นแบบนั้นไปด้วย
กิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยในจังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยได้ลงไปรับฟังการสะท้อนปัญหาจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยตรง เหมือนในยุคพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ทำมาโดยตลอด กระบวนการคิดค้นนโยบายที่ดีและมีประโยชน์นั้นพรรคเพื่อไทยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ก่อนจะเป็นกลั่นกรองออกมาเป็นนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชน ดังนั้นหากสงสัยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยที่แท้จริง คือใคร คำตอบคือ ‘ประชาชน’ ซึ่งผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่า แม้กฎกติกาจะเป็นอย่างไร แต่เพราะศรัทธาของประชาชนที่พิสูจน์มาแล้วว่านโยบายของพรรคเปลี่ยนแปลงชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น พรรคเพื่อไทยจึงยังคงเป็นพรรคที่ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ครองใจพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด
จากการลงพื้นที่ของครอบครัวเพื่อไทยใน จ.เชียงใหม่ ครั้งนี้ พบปัญหามากมายที่ประชาชนอยากให้แก้ไข ทั้งปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาที่ดินทำกิน ขาดแคลนพื้นที่การแสดงออกทางศิลปะ ฯลฯ ที่อยากให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาดูแลแก้ไข พรรคเพื่อไทยจึงพร้อมเดินหน้า ตั้งเป้าชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ และเมื่อมีโอกาสได้กลับมาเป็นรัฐบาล ก็จะนำนโยบายที่ผ่านกระบวนการคิดอย่างรอบคอบไปผลักดันให้สำเร็จ คืนความกินดีอยู่ดีให้กับพี่น้องประชาชน ให้ประเทศไทยหลุดพ้นออกจากความทุกข์ทรมานกับการบริหารประเทศที่ล้มเหลวหมดสภาพของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ดังนั้นวิกฤตชาติที่เป็นรูปธรรมที่สุดไม่ใช่ความเสียหายจากอดีตนายกรัฐมนตรีแต่วิกฤตชาติที่แท้จริงดูได้จากชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยที่กำลังเผชิญอยู่อย่างแสนสาหัสตลอด 8 ปี ภายใต้การบริหารของรัฐบาล 3 ป. ที่นำพาประเทศมาสู่ทางตัน สู่วิกฤตชาติ ทั้งคนตกงานหลายล้านคน ระบบอุปถัมภ์พวกพ้องเบ่งบาน คนจนพุ่งขึ้นทะลุ 20 ล้านคน การใช้จ่ายงบประมาณจากภาษีประชาชนเป็นไปแบบสุรุ่ยสุร่ายไม่คุ้มค่า ดัชนีการรับรู้การทุจริตคอร์รัปชันปีที่แล้วยังรั้งท้ายโลกอยู่อันดับที่ 104 จาก 180 ประเทศ คะแนนลดลงจากปัญหาการให้และรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐ การค้าการลงทุนกับต่างประเทศนับวันยิ่งถดถอย จึงสงสัยว่าที่นายชนะศักดิ์บอกว่า สภาวะเศรษฐกิจก็ฟื้นตัวดีวันดีคืนไม่มีวิกฤตชาตินั้น นายชนะศักดิ์อยู่ในประเทศเดียวกันหรือไม่ จึงไม่รู้ร้อนรู้หนาวถึงความเดือดร้อนทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนคนไทยได้
“นายชนะศักดิ์จะหน้ามืดตามัว ยกยอพอใจกับรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็สุดแท้ แต่ประชาชนไม่เห็นเหมือนนายชนะศักดิ์ พลเอกประยุทธ์จะได้อยู่หรือไม่ได้อยู่ต่อในตำแหน่งยังไม่มีใครรู้ แต่ถ้ามั่นใจว่าประชาชนจะเลือก ก็ส่งสัญญาณแก้ไข ม.272 ไปเลย เพราะพรรคเพื่อไทยพร้อมเลือกตั้ง และไม่คิดสร้างกติกาหรือเงื่อนไขเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น” นางสาวชญาภา กล่าว