‘ตรีชฎา’ ย้ำกัญชาเป็นยาเสพติด หนุนใช้ทางการแพทย์เท่านั้น วอน ‘อนุทิน’ ใจกว้างหน่อย สังคมส่วนใหญ่ไม่เอา อย่าปล่อยฟรีพี้ทั่วเมือง

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในระหว่างที่ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา ยังไม่สามารถผ่านสภาในวาระที่ 2 เพื่อให้กรรมาธิการไปพิจารณาปรับปรุงได้ ขณะที่ความกังวลจากแพทย์ นักวิชาการและภาคประชาสังคมยังคงมีความห่วงใยในนโยบายกัญชาเสรี พรรคเพื่อไทย มองเห็นความกังวลในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อเยาวชนและประเทศชาติ จึงมีข้อเสนอดังต่อไปนี้

1.เห็นด้วยกับแพทย์ทั่วประเทศกว่า 1,363 คนและสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย ที่เรียกร้องหยุดกัญชาเสรี เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายควบคุม จนทำให้เกิดการใช้เชิงสันทนาการ ส่งผลเสียต่อเด็ก-เยาวชน

  1. พันธกรณีระหว่างประเทศในเรื่องยาเสพติดที่ประเทศไทยได้ลงนามรับรอง มี 3 ฉบับ ซึ่งกัญชาอยู่ในอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษด้วย ได้แก่
    ฉบับที่ 1 อนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ. 1961 แก้ไขโดยพิธีสาร ค.ศ. 1972
    ฉบับที่ 2 อนุสัญญาว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1971
    ฉบับที่ 3 อนุสัญญาต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติดและวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1988

โดยกัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้ แต่ต้องปกป้องสุขอนามัย และสวัสดิภาพของผู้ใช้ การใช้กัญชาเสรีเพื่อการนันทนาการเป็นการขัดต่อบทบัญญัติของอนุสัญญาฯ ขณะที่การปลูกกัญชาส่วนบุคคล เพื่อใช้ทางการแพทย์เป็นการกระทำที่ขัดต่ออนุสัญญาฯ เพราะเสี่ยงต่อการรั่วไหล และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

  1. เรามีความกังวลใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับการให้เยาวชนเข้าถึงกัญชาเสรี ที่กระทบความมั่นคงของสังคม หากเด็กและกลุ่มเปราะบางเข้าถึงได้ง่ายและยากเกินควบคุม ไม่คิดอย่างรอบคอบ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างปัญหาสังคมให้มากขึ้นตามไปด้วย
  2. มีช่องโหว่ที่ยังไม่ถูกปิดในช่วงที่ยังไม่มี พ.ร.บ. กัญชา หากแม้มีกฎหมายออกมา ก็สามารถเสพกัญชาเพื่อสันทนาการในบ้านได้ ซึ่งอาจจะเสี่ยงต่อโรคและอาการทางประสาท ซึ่งมีข้อมูลทางวิชาการจากสมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทยและหลายสมาคมทางการแพทย์ที่ศึกษาอย่างเป็นระบบและมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าส่งผลร้ายต่อร่างกายหากได้รับเกินขนาด
  3. หยุดพี้เสรี เพื่อป้องกันผลข้างเคียงในระยะสั้น-ยาว ต่อระบบประสาทจากการใช้สารสกัดกัญชาหรือกัญชา
  4. พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ เพราะส่งผลโดยตรงทางสมองและการศึกษาของเด็กและเยาวชน ส่งผลต่อความจำและสมาธิ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ในกลุ่มผู้สูงอายุกัญชามีผลต่อความจำและการทรงตัว เสี่ยงต่อการเสียชีวิตกระทันหัน
  5. ขอเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดใจให้กว้าง รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นตามระบอบประชาธิปไตย การที่กลุ่มแพทย์เสนอให้ปิดสุญญากาศการใช้กัญชาทันที โดยไม่ต้องรอออก พ.ร.บ. กัญชา พร้อมยกเลิกประกาศถอดกัญชาออกจากยาเสพติด แต่นายอนุทินกลับกล่าวว่าเป็นการแก้ไขปัญหาแบบสิ้นคิดหรือแบบกำปั้นทุบดินนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ควรทำ โดยควรนึกถึงผลดี ผลเสีย และการคิดอย่างรอบด้านให้มากที่สุด เพื่ออนาคตของเด็กและเยาวชน
  6. ขณะนี้มีผู้สมัครของพรรคการเมืองเอาเมล็ดและต้นกัญชาไปแจกจ่ายประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย เรื่องนี้รัฐบาลก็ควรตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย

นางสาวตรีชฎา กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยเล็งเห็นถึงประโยชน์และชีวิตของประชาชน การรับฟังเสียงสะท้อนจากแพทย์ทุกองค์กรที่ส่งสัญญาณเตือนอันตรายและความห่วงใย เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องฉุกคิด หากยังเดินหน้าโดยไม่ได้คิดให้รอบคอบ จะได้ไม่คุ้มเสีย และที่ว่า ‘ได้’ ไม่แน่ใจว่าใครได้กันแน่ เพราะในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือผลกระทบต่อชีวิตประชาชน อาชญากรรมล้นเมือง คดียาเสพติด คนหลอนยามากขึ้นเรื่อยๆ อนาคตของลูกหลานเป็นสิ่งที่รัฐบาลในฐานะผู้บริหารประเทศควรตระหนักเหนือกว่าสิ่งอื่นใด