‘ตรีชฎา’ เย้ยรัฐบาลหมดน้ำยา หลังเจ้าหน้าที่ปกครองถูกปล้นยาบ้าของกลาง ตบหน้ารัฐบาลฉาดใหญ่ จี้รัฐบาลเร่งติดตามจับกุมด่วน
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าเกิดเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายราว 20 คนมีอาวุธครบมือ บุกชิงของกลางยาเสพติดและอาวุธจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นปฏิบัติการที่ ‘ตบหน้า’ รัฐบาลอย่างแรง เพราะในอีกหนึ่งวันถัดมาคณะรัฐมนตรีเพิ่งมีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันและปราบปรามอาวุธปืนและยาเสพติด ซึ่งการซ้อนแผนของแก๊งค้ายาครั้งนี้อุกอาจ และเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่สร้างความหวั่นไหวให้กับประชาชนอย่างมาก แสดงให้เห็นว่า ขบวนการค้าเสพติดไม่ได้ยำเกรงกฎหมาย ยาเสพติดยังเป็นสินค้าที่แพร่ระบาด รวมถึงอาวุธปืนที่สามารถหาซื้อได้ง่ายจากมาตรการควบคุมที่ยังหละหลวม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สะท้อนภาพชัดในการกำกับนโยบายและความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากจะถามหาความจริงจังของรัฐบาลนี้ที่ดูเหมือนว่าจะจริงใจในการแก้ไขปัญหา จากการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 นโยบายเร่งด่วน 12 ข้อที่จะทำทันทีให้เห็นผลโดยเร็ว ในข้อ 9 เป็นเรื่อง ‘การเร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้’ แต่จนถึงวันนี้ผลงานทำงานที่ ‘เร่งด่วน’ ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เป็นอย่างไรก็สะท้อนออกมาจากข่าวสลดอดสูใจรายวัน เช่น พ่อยอมฆ่าลูกที่ขู่บังคับเอาเงินจากการหารายได้รายวันไปซื้อยาบ้า และไม่มีเงินเพียงพอจะไปเข้ารับการบำบัดยาเสพติด สิ่งที่เกิดขึ้นตามหน้าข่าวรายวันเป็นหลักฐานการบริหารประเทศในการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลนี้ หยุดเสียทีกระบวนการเอาผิดสั่งย้ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ควบคุมพื้นที่ เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะเสพติดยังไม่ลดลงจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่ควรทำทันทีคือปฏิรูปตำรวจต้องเกิดขึ้นและดำเนินการจริงจังเสียที
“คนไทยจะอยู่กันอย่างไร 8 ปีกว่าแล้วที่พลเอกประยุทธ์เป็นผู้นำ ความยากจนก็แก้ไม่ได้ หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น ยาเสพติดก็ป้องกันและปราบปรามเหยาะๆแหยะๆ เรื่องการครอบครองอาวุธปืนไม่จริงจัง ท่านยอมรับหรือไม่ว่าการแก้ปัญหาล้มเหลว หมดน้ำยา การอ้างอิงขยายผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดและค้าอาวุธที่ผ่านหรือการประกาศให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติไม่มีพลังมากพอ ถ้าบริหารเก่งจริง ปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งได้ผล คงไม่เกิดเหตุสลดหลายๆ เหตุการณ์ขึ้น ขอให้รัฐบาลเร่งติดตามคนร้ายในคดีนี้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจสร้างความปลอดภัยต่อชีวิตให้กับประชาชน เพราะหากทุกอย่างเงียบหาย ยาเสพติดที่ถูกปล้นไปถูกกระจายส่งกลับมาสู่สังคม ประชาชนอยู่อย่างไร” น.ส.ตรีชฎากล่าว