“สยาม”ชี้ยุค“ประยุทธ์”กองทัพอู้ฟู่ขณะประชาชนกำลังอดตาย ชี้คนละครึ่งพ่นพิษ ร้านค้ารายเล็กสาหัสโดนสรรพกรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังอ่วม
นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลอ้างความสำเร็จ ของโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลว่ามีประชาชนได้ประโยชน์ร้านค้าเข้า 9.76 แสนร้านค้า ถือเป็นการบิดเบือนความเป็นจริง การช่วยประชาชนเป็นเรื่องที่ดีไม่มีใครขวาง แต่การไปรีดเลือดกับร้านค้าคือความเลวร้ายที่แฝงมากับความช่วยเหลือของรัฐบาล
ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมาก ทั้งแม่ค้าขายผัก ขายปลา ขายข้าวแกง รวมไปถึงร้านส้มตำจำนวนมาก ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล ล่าสุดได้รับหนังสือจากกรมสรรพกร เรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ซึ่งจากเดิมแม่ค้าเหล่านี้ก็เสียภาษีแฝงอยู่แล้ว แต่หลังจาก เข้าร่วมโครงการกับโดนเรียกภาษีทางตรงการกระทำดังกล่าว ของรัฐบาลไม่ต่างจากการรีดเลือดกับปูเพราะร้านค้าเหล่านี้รายได้ไม่มากแต่ต้องมาเสียภาษีหลักหมื่นจึงเป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก
นายสยาม กล่าวด้วยว่า จากการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งเฝ้าระวังการพนันออนไลน์ การหลอกลวงทางเทคโนโลยี ทำไมมาคิดได้ตอนนี้อยู่มา 8 ปี ทำไมไม่คิด รวมทั้งสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ไม่คิด ทำคือการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ แก๊งค์หมวกกันน็อคที่อาละวาดหนักไม่เกรง กลัวกฎหมายทั้งทำร้ายร่างกาย พังร้าน พังบ้าน เป็นปัญหาที่สะสมมานาน แต่พลเอกประยุทธ์ไม่คิดดำเนินการ พลเอกประยุทธ์เกรงใจใคร หรือกลัวอะไรอยู่
“ ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ภายใต้ “ระบอบประยุทธ์”ใช้เงินของประชาชนมหาศาล กู้เงินจนประเทศไทยมีหนี้สูงถึง 10 ล้านล้านบาท เงินภาษีจาก ประชาชน จำนวนมหาศาลเหล่านี้ไปหมดกับโครงการที่ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน แต่เกิดประโยชน์กับกองทัพ ทั้งบ้านพักข้าราชการทหาร ที่หรูหราขึ้นไม่ต่างจากคอนโดนชั้นดี สโมสรกองทัพใหม่หรูหรา 5 ดาว แฟลตทหารใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก เงินอุดหนุนอาหารกลางวันของกำลังพลที่มากกว่าเงินค่าอาหารหลางวันเด็กนักเรียน อยากเตือนสติพลเอก ประยุทธ์ว่าคุณเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกดังนั้นต้องคิดถึงประชาชนให้มากกว่าคิดถึงกำลังพล ประชาชนจะอดตายแล้ว แต่ทหาร กินดีอยู่ดีอย่างนี้ใช้ไม่ได้” นายสยามกล่าว