‘ตรีชฎา’ ตอก ‘ประยุทธ์ -อนุทิน’ อย่าปล่อยเบลอ ‘กัญชาคาเฟ่’ ผุดเป็นดอกเห็ด เร่งจัดการก่อนเยาวชนติดยาเกลื่อนเมือง

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า รู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นข่าวในสื่อรายงานว่า นอกจากย่านถนนข้าวสารและอีกหลายแห่งที่อยู่ใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ ยังพบอีกที่ที่เมืองพัทยา แห่กันเปิด ‘กัญชา คาเฟ่’ เพื่อขายกัญชาเพื่อสันทนาการ โดยมีแบบมีใบอนุญาตถูกต้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่ไม่ใช่สถานพยาบาล โดยเปิดให้สูบในร้าน ซื้อกลับบ้าน อ้างว่าได้ผ่านการตรวจสอบและดูแลโดยแพทย์แผนไทยมานั่งประจำในร้าน และยังมีแบบที่เปิดขายออนไลน์อย่างเปิดเผย ทั้งหมดเป็นปรากฏการณ์ที่กำลังเดินไปสู่บ่อนทำลายอนาคตของชาติ จึงอยากสอบถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่า ใครเป็นคนอนุญาตให้ทำทั้งที่ไม่มีกฎหมายควบคุม ปล่อยให้มีการเปิดธุรกิจขายช่อดอกกัญชามานานหลายเดือน เพิ่งออกกฎกระทรวงออกมาควบคุม ปล่อยให้สังคมไทยกลายเป็นศูนย์กลางการขายช่อดอกกัญชาแบบเสรีอย่างยาวนานได้อย่างไร และขอตั้งคำถามไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบการบริหารงานของคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานภาครัฐ เหตุใดจึงปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดร้านจำหน่ายกัญชา ปล่อยให้มีการสูบเพื่อสันทนาการ หรือที่จริงแล้วทั้งหมดเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องการและพอใจใช่หรือไม่ การกำหนดเงื่อนไขตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยสมุนไพรควบคุม ในส่วนของช่อดอกกัญชา จะควบคุมผู้ฝ่าฝืนให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไรในเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไม่มีความเข้าใจและไม่มีการสั่งการกวดขันจากผู้รับผิดชอบระดับคณะรัฐมนตรีและปลัดกระทรวง ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลก็ควรสะทกสะท้านและห่วงใยสังคมมากกว่านี้อย่าตีเบลอ เพราะขณะนี้ ยัไม่มีกฏหมายกัญชา กัญชงออกมาบังคับใช้ การเปิดขายกัญชาเสรีจะอยู่ในกรอบและขอบเขตของกฎหมายอย่างไร การถือเอาประกาศกระทรวงสาธารณสุขเป็นเกณฑ์จะชอบด้วยหลักการใช้อำนาจหน้าที่ของภาครัฐได้หรือ

ปัจจุบัน น่าเป็นห่วงว่า กัญชาไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อการแพทย์เพียงอย่างเดียว หากแต่นำไปใช้เพื่อสันทนาการอย่างเปิดเผย มีการลงทุนมหาศาล กลายเป็นแหล่งบันเทิงของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แล้วคนไทยจะเอาความภูมิใจจากไหน ภูมิใจที่ไทยกลายเป็นศูนย์กลางกัญชาให้คนมาสันทนาการในประเทศไทยใช่หรือไม่

“ธรรมชาติของเด็กและเยาวชนเป็นคนที่ชอบลอง รัฐบาลจะมีมาตรการป้องกันได้อย่างไร ไม่ให้ลูกหลานเหล่านี้ไปหาซื้อกัญชาและมามั่วสุมกันเพื่อสูบ สุดท้ายลูกหลานก็สามารถเข้าถึงยาเสพติดชนิดอื่นได้อย่างง่ายดาย อย่ามาอ้างเพื่อเอาตัวรอดว่า กฎหมายห้ามไว้แล้ว ใครทำผิดต้องถูกลงโทษ หน้าที่ของตำรวจต้องไปจับกุม ความจริงความรับผิดชอบเป็นของรัฐบาล รัฐบาลต้องดูแลรับผิดชอบสังคม ต้องป้องกันและควบคุมให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ นี่คือความล้มเหลวในการบริหารงาน เพราะการออกนโยบายไม่รอบคอบ รีบเร่งกระทำการให้กัญชาเสรีโดยที่ไม่มีกฎหมายควบคุม อย่ามาโทษปี่โทษกลองว่าฝ่ายค้านดึงเกม เพราะความจริงกฎหมายควบคุมต้องออกมาก่อนการประกาศกัญชาเสรี ความผิดนี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ” นางสาวตรีชฎา กล่าว