“ปิยวัฒน”เชื่อนโยบายเพื่อไทยโดนใจชาวรากหญ้า ชี้ปลายรัฐบาลเหตุสภาล่มเกิดจากฝ่ายรัฐบาลไม่รักษาองค์ประชุม ไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้าน
นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์การประชุมสภาผู้แทนราษฏรล่มติดต่อกันหลายสัปดาห์ พรรคร่วมรัฐบาลเรียกร้องนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้เปิดเผยรายชื่อส.ส.ที่ไม่ยอมแสดงตนเป็นองค์ประชุม ทั้งๆที่องค์ประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาล เมื่อจำนวนส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมีมากกว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน ดังนั้นหากสภาล่มก็มาจากส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ไม่ยอมอยู่เป็นองค์ ประชุมมากกว่า
ทั้งนี้เนื่องมาจากเป็นช่วงปลายรัฐบาล และใกล้เลือกตั้ง บรรดาส.ส. ย้าย พรรคเป็นจำนวนมาก เพราะเกรงจะไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.กับพรรคการ เมืองที่มีการตกลงกันไว้ เพราะเกรงจะติดล็อกเงื่อนเวลา 90 วัน หากมีการยุบสภาใน เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ในส่วนขององค์ประชุมนั้นอยากให้นายชวน ตรวจสอบการกดบัตรแทนกันของฝ่ายรัฐบาล มากกว่าจะมาตรวจสอบฝ่ายค้าน หากบอกว่าฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือคงไม่ไช่เพราะส.ส.ฝ่าย ค้านไปร่วมประชุมเพื่อเปิดประชุมสภาทุกครั้ง แต่ปัญหาสภาล่มมาจาก ฝ่ายรัฐบาลไม่ยอมรักษาองค์ประชุมต่างหาก ดังนั้นจึงไม่แปลกใจหากการประชุมสภาจะล่มอีกหลังจากนี้
นาย ปิยวัฒน กล่าวด้วยว่า จากนี้ไปอีก 3 เดือนข้างหน้าเป็นช่วงที่จะเข้าสู่ฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ 8 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สร้างภาระหนักและความปวดร้าวให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำที่ลดลง สวนทางราคาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งน้ำมัน ทั้งปุ๋ย ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ในขณะเดียวกันราคาประกันรายได้ ราคาข้าวไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง พลเอกประยุทธ์ดีใจที่ไทยส่งออกข้าวได้มากแต่พลเอกประยุทธ์รู้หรือไม่ว่าใครได้ประโยชน์จากการส่งออกข้าว นายทุนใกล้ชิดที่กำไรมหาศาลหรือชาวนาที่แบกรับภาระต้นทุนทางการเกษตรหลังแอ่นในขณะเดียวกันการช่วยเหลือจากรัฐเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มคนชั้นกลางในขณะที่กลุ่มเกษตรกรหรือกลุ่มคนรากหญ้าเข้าไม่ถึงมาตรการของรัฐ
“หลังจากนี้เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองจะลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างเข้มข้น ประชาชนอดทนรอวันเลือกตั้งมานานแล้ว ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เร่งผลักดันนโยบายแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนเป็นหลัก เชื่อว่าประชาชน จะไม่ยอมรับพรรคการเมืองที่แจกเงินอีกแล้ว เพราะหลังเลือกตั้ง รัฐบาลทอดทิ้ง ไม่เหลียวแล ดังนั้นการเลือกตั้งในปี 2566 เชื่อว่าประชาชนจะให้ความ สำคัญกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายมุ่งแก้ปัญหา ปากท้องยกระดับราคาสินค้าเกษตร ไม่ปล่อยให้เงินเป็นปัจจัยสำคัญในการลง คะแนนเลือกตั้งอย่าง แน่นอน” นายปิยวัฒน์ กล่าว