นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรค ร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่าอยากให้ประชาชนจับตาดูการประชุมสภาว่าเดินหน้าได้หรือไม่ ดังที่เคยบอกไว้แล้วว่า ประมาณเดือนธันวาคม 2565-มกราคม2566 เป็นต้นไปองค์ประชุมจะล่มบ่อย การทำงานในสภาก็จะไม่ราบรื่น ดังนั้นหากมีกฎหมายของรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณา หากไม่ผ่านรัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร

นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่าในวันที่ 16 ธันวาคม ที่จะถึงจะมี ส.ส.จำนวนมาก ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งจากพรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ดังนั้นจำนวนส.ส.ก็จะหายไป นอกจากนี้ที่ผ่านมา ส.ส.พรรค ฝ่ายค้านที่จะไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยแสดงตนเป็น องค์ประชุมให้โดยตลอด ถ้าเกิดการลาออกจากตำแหน่งส.ส. จะส่งผลให้จำนวน ส.ส.ในสภาลดลงไปมาก ดังนั้นหวั่นจะกระทบกับภาพรวมของการประชุมสภาอย่างแน่นอน ที่เป็นเช่นนี้เพราะส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหลายท่านไม่ใส่ใจในการประชุมสภา ยิ่งมีการลาออกจาก ส.ส.ก็จะส่งผลกระทบกับการประชุมสภามากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลต้องไตร่ตรองให้ดี ว่าจะขับเคลื่อนสภาไปได้อย่างไร หากไม่รับผิดชอบจะกลายเป็นปัญหาในการทำงานของสภา

นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีการเรียกร้องจากส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ว่าให้สภาประกาศรายชื่อ ส.ส. ที่ไม่รวมเป็นองค์ประชุมสภา กรณีดังกล่าวไม่จำเป็นต้องปิดป้ายเพราะสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว วันนี้ปัญหาองค์ประชุม จะเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาล ถ้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล คุมไม่ได้ก็ไม่ควรที่จะอยู่ต่อไป จะเลือกยุบสภา ก่อนปีใหม่หรือหลังปีใหม่ก็ได้ เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งสรรหารัฐบาลใหม่ ทั้งนี้ เหตุการณ์ ที่สภาล่มบ่อยจะส่งผลต่อภาพพจน์ของรัฐบาลอย่างรุนแรง เพราะนักลงทุนจะขาดความเชื่อมั่น หมดความเชื่อถือของนักลงทุนจากต่างประ เทศที่จะมาลงทุนในประเทศไทย

“ส่วนที่นักการเมืองสังกัดพรรคเพื่อไทยย้ายพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่น่าจะมีผลกระทบกับพรรคมากนัก เพราะผู้บริหารพรรคทราบมานานแล้วว่าใครจะย้ายออก ดังนั้นมีการเตรียมคนเพื่อส่งผู้สมัครแข่งขันในนามพรรคลงสนามเลือกตั้งในพื้นที่ของส.ส.ที่ย้ายออกไป พร้อมทั้งเดินหน้าสร้าง กระแสแลนด์สไลด์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกำชับให้ผู้สมัครของพรรคทุกคนเดินหน้าเข้าหาประชาชนอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” นายสมคิด กล่าว