‘เพื่อไทย’ เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี และแก้ไขมาตรา 159 ให้สภาเลือกนายกรัฐมนตรีจากส.ส.ได้
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสมาชิกพรรคเพื่อไทย จำนวน 101 คนร่วมลงชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช … ต่อประธานสภาผู้แทนราษฏร โดยมีนายสุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับมอบ โดยมีสาระสำคัญคือการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 ว่าด้วยเรื่องการให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และ มาตรา 272 ยกเลิกมิให้สมาชิกวุฒิสภา ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ด้วยพรรคเพื่อไทยมีความมุ่งหมายมาตลอดในการขอแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 โดยเฉพาะในมาตราที่เห็นว่าเป็นปัญหาที่สุดในการบังคับใช้ และมีผลต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้พยายามเสนอการแก้ไขในหลายครั้งแม้จะไม่สำเร็จก็ตาม ในครั้งนี้เราเห็นว่ามาตราสำคัญที่ควรถูกแก้ไขมีอยู่ 2 มาตรา คือมาตรา 272 และมาตรา 159
มาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ คือเรื่องการกำหนดให้ความเห็นชอบบุคคลสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทำในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญ เท่ากับให้สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมิได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มีสิทธิในการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อันเป็นการขัดต่อหลักการและประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และไม่สอดคล้องต่อความต้องการของประชาชน จึงสมควรแก้ไขไม่ให้สมาชิกวุฒิสภามีสิทธิเลือกผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป ส่วนมาตรา 159 ควรแก้ไขให้นายกรัฐมนตรีสามารถมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ได้ด้วย จึงขอเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา 159 และยกเลิกมาตรา 272 จึงได้เข้าชื่อร่วมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยประชุมนี้
“พรรคเพื่อไทย มีความมุ่งมั่นมาตลอดในการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีปัญหาในการบังคับใช้ และมีผลกระทบต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ร่วมลงชื่อและเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร จากนี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบความชอบความถูกต้อง รับฟังความคิดเห็นตามลำดับและคาดว่า สมัยประชุมนี้จะได้พิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
บทความที่เกี่ยวข้อง
นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบน x ตั้งคำถามถึง MOU แร่แรร์เอิร์ธ ที่รัฐบาลไทย ไปลงนามกับสหรัฐฯ โดยมีข้อกังวลว่าไทยได้ประโยชน์อะไรจาก MOU ฉบับนี้ พร้อมชี้ให้เห็นว่า การไปลงนาม MOU ดังกล่าวโดยไม่ผ่านคณะรัฐมนตรีหรือรัฐสภาก่อนนั้นอาจขาดความรอบคอบ รัดกุม เสี่ยงต่อการเสียอำนาจการต่อรอง และหากลงนามกันแต่บอกว่าไม่ผูกพันยิ่งทำให้ประเทศเสียความน่าเชื่อถือบนเวทีโลก โดยนายศึกษิษฏ์ ได้เขียนข้อความดังนี้
อ่านต่อ
ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค หารือในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 กรณีที่รัฐบาลไทยนำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ไปลงนามร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เรื่องแร่หายากหรือแรร์เอิร์ธ ว่านายกรัฐมนตรีไทยไปทำเรื่องใหญ่ที่สร้างความตกใจให้คนทั้งประเทศ ด้วยการปิดบังไปลงนาม MOU ซึ่งหมิ่นเหม่ต่อรัฐธรรมนูญ
อ่านต่อ