นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนายธนากร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่วันๆ ออกมาทำหน้าที่โฆษกส่วนตัว เป็นวอเปเปอร์ให้กับพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการตอบโต้ทางการเมืองทุกเม็ดโดยไม่มีเนื้อหาใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองในตำแหน่งหน้าที่รัฐมนตรี ใช่หรือไม่

ซึ่งตนเห็นว่าเมื่อหีบทองหล่นใส่จนเท้าบวมแล้ว ก็ควรจะทำงานให้สมกับภาษีที่ประชาชนจ่ายให้ไปเป็นถึงเสนาบดี ซึ่งตนอยากรู้ว่างานที่ทำในตำแหน่งรัฐมนตรีมีอะไรที่เป็นคุณประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนบ้าง นอกเหนือจากทำหน้าที่วอเปเปอร์และโทรโข่งให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการตอบโต้ปะฉะดะรายวัน ให้พรรคการเมือง

นายจิรายุ กล่าวอีกว่าวันนี้ยิ่งพลเอกประยุทธ์ ปล่อยให้รัฐมนตรีมาทำหน้าที่เหมือนกับโฆษกส่วนตัว ยิ่งทำให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ เสื่อม บริหารมาจากครบ 4 ปี รวมทั้งแพค 8 ปี จะขอต่ออีก 2 ปี วันนี้สภาพสังคมการเมืองและเศรษฐกิจดิ่งเหวทุกด้าน ไม่มีอะไรที่จะพัฒนาหรือดีขึ้นใช่หรือไม่ ถึงขนาดต้องตั้งโทรโข่งมาเป็นถึงรัฐมนตรี

วันนี้ตนอยากฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี:ถ้าหากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกทำได้เพียงแค่นี้ ยิ่งทำให้คนไทยมีโอกาสหน้าใสกระเป๋าเงินเต็มถัง กระเป๋าตังค์ตุงเงินริบหรี่ลงทุกนาที ทั้งนี้ตนขอให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยให้เต็มเหนี่ยวเพียงแค่นี้ก็จะทำให้ประเทศฟื้นจากเศรษฐกิจย่ำแย่มานานกว่า ทศวรรษ ดีกว่ามานั่งดูข่าว เสนาบดีโต้ข่าวการเมืองเอาใจนาย

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนขอให้ปรับ ครม.อีกรอบให้นายธนากร ไปเป็นเพียงแค่โฆษกส่วนตัวหรือวอเปเปอร์ นายกรัฐมนตรี เหมือนก่อนหน้านี้จะดีกว่า จะได้ปะฉะดะตอบโต้ทางการเมืองโดยไม่ถูกประชาชนครหาว่าเป็นถึงรัฐมนตรีกินเงินเดือนภาษีประชาชนแทนที่จะบอกว่าจะแก้ไขปัญหาหรือทำงานในตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับอย่างไร กลับกลายเป็นตอบโต้ทำสงครามน้ำลายกับฝ่ายค้านรายวัน

“ยิ่งนายธนกร ตอบโต้รายวันแทนนายกฯเท่าไหร่นั่นย่อมหมายถึงว่า ลุงตู่อยู่มา 8 ปีจะขอต่ออีก 2 ปี ทำให้เห็นอนาคตของประเทศไทยว่าจะเป็นอย่างไรและยิ่งตอบโต้มากเท่าไหร่ยิ่งแสดงถึงอาการปากกล้าขาสั่นของนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้ควรจะแถลงผลงานว่าที่ผ่านมาทำอะไรเป็นประโยชน์ต่อประชาชนไปบ้าง” นายจิรายุกล่าว