นายแพทย์โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่คาดว่าจะเดินทางเข้าไทยมากถึง 5 ล้านคน ภายหลังการเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลควรที่จะมีการเตรียมความพร้อม โดยการถือหลักส่งเสริมปลอดภัยและรักษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการรับมือนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่เฉพาะชาวจีนเท่านั้น

การส่งเสริมนั้น นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย ต้องมีประวัติได้รับการ ฉีดวัคซีนมาแล้ว 3-4 เข็ม พร้อมส่งเสริมให้รู้จักการป้องกันตัวเอง ในระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศไทย ในส่วนของการป้องกันหลักๆคือการให้ บริการทางการแพทย์ต้องมีความพร้อมและดูแลเขาเป็นอย่างดี และรักษา คือการสร้างมาตรฐานการรักษาในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างระบบการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคในแหล่งท่องเที่ยวต้องมีมาตรฐาน

นายแพทย์โอชิษฐ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลทำได้เพียงการกระตุ้นให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด แต่กลับไม่ให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสู้กับโควิดมาตลอด 3 ปี ทำงานหนักมาก บุคลากรเหนื่อยล้ามาก แต่คนเหล่านี้ต้องออกมาเรียกร้อง ค่าตอบแทนค่าเสี่ยงภัย กว่าจะได้ช้ามาก หากยังต้องมาต่อสู้กับโควิดรอบใหม่ คงจะส่งผลกระทบกับขวัญกำลังใจของบุคลากรทางการแพทย์อย่างแน่นอน ดังนั้นรัฐต้องมีความชัดเจนในการดูแลบุคลากรทางการแพทย์อย่างเต็มที่

“รวมทั้งอยากให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวังการกลายพันธ์ของเชื้อโควิดในประเทศไทย ต้องทดสอบต้องทำงานหนัก เพื่อป้องกันการกลายพันธ์ในประเทศไทย ว่าวัคซีนที่มีอยู่ป้องกันได้หรือไม่ เพราะคนไทยและคนทั้งโลกยังคงต้องอยู่กับไวรัสโควิดไปอีกนาน ดังนั้นเราจะอยู่อย่างไรที่จะไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นรัฐบาลจะปล่อยปละละเลยไม่ได้ การส่งเสริมการเฝ้าระวังต้องพร้อมตลอดเวลา จะประมาทไม่ได้” นายแพทย์โอชิษฐ์ กล่าว