นายณพลเดช มณีลังกา คณะทำงานศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ยังมีเรื่องคาใจสังคมปมคลิปหลุดที่ถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกรับประโยชน์จากโควต้าล็อตเตอรี่คดีดังกล่าวถูกตรวจสอบไปถึงขั้นตอนไหน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ เคยแต่งตั้งนายเสกสกล ให้เป็นรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด แต่คนตรวจสอบกลับถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับผลประโยชน์เสียเองในสลากกินแบ่งรัฐบาล จนเกิดคดีอื้อฉาว เข้าข่ายลักษณะเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง โดยที่นายกรัฐมนตรีไม่เคยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเลย ทั้งๆ ที่เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและติดตามว่าข้อสรุปมีการเรียกรับผลประโยชน์กันจริงหรือไม่ จนเป็นเหตุให้นายเสกสกล ต้องลาออกจากตำแหน่ง ส่งผลถึงขั้นลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และไปตั้งพรรคเองชื่อพรรคเทิดไทย พร้อมกับรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคด้วย

นายณพลเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า แต่เมื่อเวลาผ่านไป พล.อ.ประยุทธ์ คงคิดว่าประชาชนลืมเรื่องนั้นแล้ว เมื่อวานพล.อ.ประยุทธ์ ทำในสิ่งที่คนการเมืองไม่เคยทำเพราะเป็นการเข้าข่ายผิดจริยธรรมทางการเมือง ด้วยการสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติขณะที่ตนเองนั่งอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ อย่างไม่สนใจว่าจะมีใครตำหนิติเตียน ไม่สนใจมารยาททางการเมือง ด้วยการแต่งตั้งนายเสกสกล ที่กลับเข้ามาเป็นสมาชิกรวมไทยสร้างชาติ มาเป็นที่ปรึกษานายกฯ อีก โดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชน และไม่สนใจคำพูดของตัวเองที่มักกล่าวอ้างเสมอว่ารัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อปราบโกงหรือทุจริตคอร์รัปชั่น หรือคิดว่าตนเองยังอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าคสช. ที่ทำการยึดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่ต้องสนใจความถูกผิด ทั้งที่ความเป็นจริง พล.อ.ประยุทธ์ คือนายกรัฐมนตรีจากการเสนอชื่อของพรรคพลังประชารัฐ ที่สำคัญการแต่งตั้งครั้งนี้เป็นการแต่งตั้งเพื่อเอื้อประโยชน์และเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นโดยการใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เสมือนเป็นการฉ้อฉลต่อการเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึงฝ่าฝืนกฎ180 วันของ กกต. นายณพลเดช กล่าว