“เพื่อไทย” เดินเครื่องพื้นที่ใต้ ลุยถกแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวทางการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ อันดามันและภูเก็ต รวมถึงวิธีการทำงานเลือกตั้ง “หมอเจี้ยว” ลั่น กระแสในภูเก็ตดีมาก-คนเชื่อมั่นนโยบาย-พูดแล้วทำได้จริง มีลุ้นกวาดเก้าอี้ทั้ง 3 เขต

เมื่อวันที่ 19 มกราคม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนพ.ประสิทธิ์ โกยศิริพงศ์ อดีตนายก อบจ.ภูเก็ต ในฐานะประธานโซนภาคใต้ฝั่งอันดามัน พรรคเพื่อไทย นายวรรณกร ภัทรปกรณ์ อดีตสมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต ในฐานะรองประธานโซนภาคใต้ฝั่งอันดามัน พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การพัฒนาและวิธีการทำงานในเขตเลือกตั้ง โดยได้บอกเล่าถึงกลยุทธ์ และประสบการณ์ที่มีจากการเลือกตั้ง โดยมีว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทยจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสงขลา ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนจำนวนมาก

นายวรวัจน์ กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาภาคใต้ภูเก็ต อันดามัน ตอนหนึ่งว่า เราอยู่ในพื้นที่ที่สวยที่สุด มีทรัพยากรที่สมบูรณ์ที่สุด นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลมาเที่ยวที่แถบอันดามันของไทย แต่เหตุใดพื้นที่สวย และสมบูรณ์เช่นนี้ถึงยังเดินไปไม่ถึงจุดสูงสุด นั่นก็เพราะรัฐบาลส่วนกลางหวงอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง กันงบประมาณไว้ที่กระทรวงต่างๆ การจัดการพื้นที่โดยท้องถิ่นจึงไม่เกิดขึ้น พวกเราเพื่อไทยตั้งแต่พรรคไทยรักไทยต่อสู้เรื่องการกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่นมาโดยตลอด นอกจากนี้ เรายังคิดไปถึงการสร้างได้ให้ท้องถิ่นด้วย อีกปัญหาหนึ่งซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของจังหวัดภูเก็ตคือปัญหาเรื่องที่ดิน โดยกฎหมายที่ออกมาตั้งแต่ปี 2497 ทำให้ประชาชนที่ครอบครองที่ดินขาดสิทธิในที่ดินทำกิน ดังนั้น กฎหมายจำเป็นต้องแก้ด้วยกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ตนได้พูดคุย และปรึกษากับทางพรรคเพื่อไทยเพื่อหาทางออก และได้แนวทางการดำเนินการเบื้องต้นว่าเราจะทำการสำรวจปัญหาที่ดิน โดยเป็นการสำรวจร่วมกันระหว่างว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย กับประชาชนในพื้นที่ เรามีแนวคิดว่า “คนไทยต้องมีที่ดินก่อน เพื่อไทยจัดให้” แต่การจะเข้าไปแก้ไขกฎระเบียบเหล่านี้ในสภาได้ ประชาชนต้องใช้โอกาสนี้ ช่วยกันเลือกคนที่เป็นผู้แทน เข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องนั่งในสภาก่อน หากเราไม่อาศัยจังหวะนี้ในการเดินหน้าเพื่อแก้ไขปัญหา และเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่างๆ เราจะไม่มีโอกาสแก้ไขปัญหาที่ดินได้อีกเลย โดยครั้งนี้ถือว่าเป็นการต่อสู้ทางการเมืองที่ดุเดือดที่สุด

นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า ตนอยากให้ผู้สมัครลงพื้นที่ไปพูดคุยเรื่องนโยบายกับพี่น้องประชาชนตามบ้าน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายแก้ปัญหาภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง นโยบายสร้างรายได้ใหม่เพื่อนำไปสู่การล้างหนี้ให้ประชาชน และการออกกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยวันนี้เรามีแอพพลิเคชั่นสำรวจปัญหาที่ดิน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะให้ผู้สมัคร และทีมงานของพรรคเพื่อไทยใช้ลงไปพบปะพี่น้องประชาชนเพื่อสำรวจ และบันทึกข้อมูลปัญหาเกี่ยวกับที่ดินทำกินของประชาชนด้วย

ด้าน นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้กระแสของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตดีมาก เนื่องจากทุกคนมีความเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยเมื่อพูดนโยบายออกไปแล้วทำได้จริง และทำได้ครบ ประกอบกับขณะนี้เศรษฐกิจไม่ดี เมื่อพี่น้องประชาชนมองดูไปแล้วต่างก็เห็นว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้จริง บวกกับรัฐบาลชุดนี้ประกาศนโยบายแล้วไม่ได้ทำสักเรื่องทำให้คนภาคใต้ที่แต่ก่อนเปิดใจให้พรรคเพื่อไทยน้อย หันกลับมาเปิดใจให้พรรคเพื่อไทยอย่างเต็มที่ วันนี้ที่ได้ยินคือ ประชาชนเดินเข้ามาถามตลอดว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไม่มาลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตบ้างหรือ นี่คือเสียงสะท้อนที่ประชาชนต้องการเจอผู้นำของพรรคเพื่อไทย วันนี้บริบทของภาคใต้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่สามารถเอาความรู้สึกในอดีตมาวัดได้อีกต่อไป ตนกล้าพูดได้เลยว่า พรรคการเมืองฟากประชาธิปไตยจะแลนด์สไลด์อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า ในฐานะประธานโซนฝั่งอันดามันฯ มองว่า จ.ภูเก็ตมีโอกาสคว้าเก้าอี้ ส.ส.ได้หรือไม่ นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า มีโอกาสได้ถึง 3 เก้าอี้เลยทีเดียว จากกระแสความนิยมของพรรค ถ้ามีหน่วยงานเอกชนลงมาทำผลสำรวจอย่างจริงจังจะเห็นว่าคะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยวันนี้กับพรรคอื่นๆที่คนภูเก็ตเคยเลือกไม่ห่างกันเลย และอาจจะนำด้วยซ้ำไปรวมถึงคนมั่นใจในผู้นำ และสถาบันพรรคเพื่อไทยที่พูดแล้วทำได้จริงมาเสมอ ซึ่งพิสูจน์มาตั้งแต่ปี 2544 แล้ว แม้พรรคไทยรักไทย มาจนถึงพรรคเพื่อไทยจะไม่เคยได้ส.ส.จากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่โครงการที่จังหวัดภูเก็ตได้รับมากที่สุดกลับมาจากพรรคไทยรักไทย และพรรคเพื่อไทย ตนจึงมั่นใจว่า วันนี้ด้วยกระแสต่างๆที่พูดมา บวกกับกระแสความต้องการของประชาชนที่เขารอมา 8-9 ปี แล้วเขาอยากเห็นอนาคตที่ดี คนจะคิดตรงกันในครั้งนี้