“วิสาร”อัด “ประยุทธ์”อำมหิตตั้งใจจับนักศึกษาเห็นต่างเข้าเรือนจำ เผยเวปไซด์จีนโชว์หราช่องทางพิเศษ ทำธุรกิจไทยพัง อัดรัฐเพิกเฉยไม่เร่งสอบกลุ่มทุนจีน
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เป็นที่น่าสังเกตุว่า กรณีนายทุนจีนสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย สร้างความเสียหายทั้งสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง แต่น่าประหลาดใจว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลับไม่ให้ความสำคัญและไม่เคยสั่งการให้ดำเนินการกับกลุ่มทุนผิดกฎหมายอย่างจริงใจ
ทั้งๆที่กลุ่มทุนนอกกฎหมายกลุ่มนี้ทำลายเศรษฐกิจ ทำลายประเทศชาติ และทำลายเกียรติภูมิประเทศชาติมาก เพราะกลุ่มทุนนี้ขนเงินผิดกฎหมายมาฟอกขาวในประเทศไทย ผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซื้อร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว รถทัวร์ นอกจากนี้ที่น่าเป็นห่วงคือมีเวปไซด์ในประเทศจีน ลงเกี่ยวกับการเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย หากต้องการความสะดวก ได้สิทธ์พิเศษต้องติดต่อผ่านช่องทางไหน แต่พลเอกประยุทธ์ เป็นหัวหน้า ส่วนราชการ สามารถที่จะหยุดยั้งความเสียหายได้ แต่เลือกที่จะเพิกเฉยกับกรณีดังกล่าว
นายวิสาร กล่าวด้วยว่า กรณีของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม นักกิจกรรมทางการเมือง ได้เดินทางเพื่อถอนประกันตัวเองในคดี ม.112 เพื่อแสดงจุดยืนเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองทั้งหมด ทั้งนี้การเอาเยาวชนคนหนุ่มสาวที่เคลื่อนไหวอยู่ขณะนี้ไปขัง ไม่ใช่การแก้ปัญหา ทุกอย่างควรมาจากการเจรจาเพื่อหาทางออก ยิ่งมีข่าวว่าน้องทั้งสองคนอดข้าวอดน้ำ จนร่างกายทรุดหนัก จนล่าสุดทาง ราชทัณฑ์ส่งตัวเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
“กรณีที่เกิดขึ้นมาจากความอำมหิตของพลเอกประยุทธ์ที่ไม่สนใจชีวิตของกลุ่มคนหนุ่มสาว ที่จะเป็นอนาคตของชาติในอนาคต ไม่ต่างจากพฤติกรรม ที่ผ่านมา ที่พลเอกประยุทธ์ใช้อำนาจมาตรา 44 จับนักการเมืองเอาถุงดำคลุมหัวไปไว้ค่ายทหาร เพื่อแสดงอำนาจให้ประชาชนเกรงกลัว ถึงเวลานี้ต้องทำทุกอย่างที่จะรักษาอำนาจให้นานที่สุด ดังนั้นจึงมองกลุ่มเห็นต่างและเยาวชนที่ออกมาใช้สิทธ์เรียกร้องตามรัฐธรรมนูญเป็นศัตรู ต้องใช้กฎหมายพิเศษจัดการ พลเอกประยุทธ์ไม่ควรจะมาเก่งกับกลุ่มเยาวชน แต่ควรเก่งกับกลุ่มคนร้าย กลุ่มค้ายาเสพติด กลุ่มนายทุนสีเทา ที่ทำลายเศรษฐกิจประเทศ จะเกิดประโยชน์กว่า เพราะการนำตัวนักศึกษาเข้าเรือนจำไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ กับใครทั้งสิ้น หรือพลเอกประยุทธ์ได้ประโยชน์จากการนำคนกลุ่มนี้เข้าเรือนจำ” นายวิสาร กล่าว