นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อ้างว่าบริหารจัดการน้ำ บูรณาการน้ำ เองทั้งหมด แต่มอบหมายให้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแลตรงนี้ การพูดเช่นนี้เป็นการพูดที่ไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมงานและเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้เพื่อน

ทุกปีเกษตรกรต้องประสบปัญหาภัยแล้ง ข้าวยืนต้นตาย ทุนหายกำไรหด ในช่วงหน้าแล้งประชาชนไม่มีน้ำทำการเกษตร พลเอกประยุทธ์ หายหัวไม่มาแก้ปัญหา อ้างเพียงว่าสั่งการไปแล้ว แต่ไม่เคยไปตรวจสอบปัญหาที่ชาวบ้านพบเจอได้รับการแก้ไขหรือไม่ หลายพื้นที่เกษตรกรต้องแก้ปัญหาเองเกษตรกรหลายพื้นที่ต้องลงขันหลักหมื่นหลักแสนจ้างเอกชนเจาะบ่อ หาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อทำการเกษตร เวลานั้นพลเอกประยุทธ์ ไปอยู่ไหน

นายภาควัต กล่าวต่อว่าน่าประหลาดใจที่พลเอกประยุทธ์ กล้าพูดว่าตัวเอง เป็นคนดูแลเรื่องน้ำ แต่เวลาหน้าแล้งกลับหนีประชาชน ไม่กล้าลงพื้นที่ ที่อ้างมาตลอดว่าทำงานเพื่อประชาชน อยากถามว่าดูแลกลุ่มไหน 8 ปีที่ผ่านมามีแต่ความเหลื่อมล้ำ เจ้าสัว นายทุน คนใกล้ชิดพลเอกประยุทธ์ รวยขึ้น สวนทางกับชาวบ้านชาวเกษตรกรที่ยากจนลง เพราะพลเอกประยุทธ์ ปล่อยให้นายทุนปรับราคาสินค้าขึ้นตามอำเภอใจโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน

“นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ อ้างว่าตัวเองไม่เคยทุจริต แต่การไม่ตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นไม่ต่างจากตัวเองร่วมกระทำการทุจริตด้วย ส่วนการปฏิรูปที่อ้างว่าจะทำให้ประเทศดีขึ้น ถึงเวลานี้ประเทศดีขึ้นจริงหรือ ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ประชาชนถามคำถามเดียวคือเมื่อไหร่จะเลือกตั้ง เมื่อไหร่พลเอกประยุทธ์ จะไป เพราะทนไม่ไหวแล้ว หากให้อยู่ต่อไปประชาชนคงอดตายทั้งประเทศ ส่วนที่พลเอกประยุทธ์ คุยโวว่าขอเวลาอีก 2 ปีจะพลิกโฉม ผ่านมา 8 ปียังทำไม่ได้ พลเอกประยุทธ์ ยังมาขออีก 2 ปีหากให้อยู่ต่อประชาชนคงไร้ความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน” นายภาควัต กล่าว