เพื่อไทยเสนอ 6 ทางออกแก้ PM2.5 ห้ามเผาป่า – เปลี่ยนรถเมล์ เป็นรถไฟฟ้า ผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด
(14 กุมภาพันธ์ 2566) พรรคเพื่อไทยจัดเสวนา “วิกฤตฝุ่น PM 2.5 เพื่อไทยมีทางแก้ไข” โดยนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เกิดมาอย่างยาวนาน วันนี้ จังหวัดเชียงใหม่มีค่าฝุ่นที่เป็นอันตรายติดอันดับ 4 ของโลก กรุงเทพฯ ติดอันดับ 34 ของโลก และ 3 ปีก่อนติดอันดับ 1 ของโลก ซึ่งเป็นอันดับที่ไม่น่าภาคภูมิใจ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว การเกษตร โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นกระทู้สดถามต่อรัฐบาล แต่กลับไม่มีผู้มาตอบถึง 3 ครั้ง จึงได้ฉีกเอกสารการตั้งกระทู้ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความไม่สนใจของรัฐบาล และที่ผ่านมาเมื่อต้นปี 2564 ได้ยื่นกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน แล้วเสร็จถึง 3 คณะ กระทั่งวันที่ 27 มกราคม 2565 ได้ยื่นพระราชบัญญัติอากาศสะอาด ผ่านไป 400 วันแล้ว ยังไปไม่ถึงไหน หลายฉบับก่อนหน้านี้มีการตีตก เหลือฉบับของพรรคเพื่อไทยที่ค้างในรัฐสภาในส่วนนิติบัญญัติ
“อยากจะมาทวงถามความตั้งใจ ความจริงใจ ของรัฐบาล ตลอดจนการใช้งบประมาณในการแก้ปัญหานี้ เมื่อเทียบกับชีวิตคนไทยที่สูญเสียไป เพราะ พ.ร.บ.อากาศสะอาดถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน คือสิทธิ์นับแต่คลอดจากครรภ์มารดาที่ควรให้ความสำคัญ และ พ.ร.บ.นี้ได้รีดไขมันส่วนเกินไปแล้ว ไม่มีการคาบเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การเงิน สิ่งแวดล้อม ตอนนี้ปัญหาส่วนหนึ่งนอกจากการเผาแล้ว ยังมีปัญหาหมอกควันข้ามพรมแดน ถ้าไม่ตั้งภาคีความร่วมมือแก้ปัญหาระหว่างประเทศ ปัญหานี้จะไม่หมดไป และอยากให้ลองมองดีๆ ว่าปัญหาอยู่ที่ การเผาอ้อย เผาฟางข้าว ใช่หรือไม่ หรืออยู่ที่เจ้าหน้าที่ใช่หรือไม่ ว่าเผาเพื่ออะไร ถ้าไม่เผางบจะตกไปใช่หรือไม่” นายจักรพลกล่าว
นายแพทย์ญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า PM 2.5 สามารถแทรกซึมได้ผ่านทางลมหายใจ คนที่เป็นภูมิแพ้จะมีน้ำมูกไหล ไปจนถึงเลือดกำเดาไหล ผ่านเข้าปอด เข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต หัวใจ สมอง สามารถทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตีบ หรืออักเสบ และสามารถเสียชีวิตได้ทันที ปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 30,000 คนต่อปี ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจนับแสนล้านบาท
“มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีการทำวิจัยว่าประชาชนพร้อมจ่าย 2 ล้านล้านบาท เพื่อให้รัฐบาทแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ซึ่งถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะแก้แน่นอน ผมมองว่าสิ่งที่สามารถทำได้ตอนนี้ กระทรวงคมนาคมสามารถเปลี่ยนรถเมล์เก่าเป็นรถเมล์ใหม่ทั้งหมด พร้อมสนับสนุนการใช้รถ EV ให้เป็นวาระแห่งชาติ รวมถึงการใช้เงินอุดหนุนช่วยเหลือประชาชนที่ใช้รถยนต์ดีเซลให้สามารถเปลี่ยนมาใช้รถที่ลดการปล่อยฝุ่นควันได้” นายแพทย์ญาณกิตติ์กล่าว
นายแพทย์ญาณกิตติ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ รัฐบาลยังไม่สนใจแก้ปัญหาอากาศอย่างจริงจัง แม้ว่าจะมีการเสนอ พ.ร.บ.อากาศสะอาด เป็นวาระแห่งชาติหลายครั้ง ขอเน้นย้ำให้ทำเพื่อคนจริงๆ งดการจัดตั้งกรรมการหลายคณะ แต่แก้ปัญหาไม่ได้ ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยต้องอาศัยความจริงใจของผู้ควบคุมกฎหมายด้วย
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาเรื้อรังในประเทศไทย การแก้ไขปัญหาจึงต้องทำความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของปัญหาก่อน โดยพบว่าฝุ่น PM 2.5 มาจาก
- ยานพาหนะ 54%
- การเผาในที่แจ้ง 35%
- โรงงานและการก่อสร้าง 11%
ทั้งนี้ ฝุ่นพิษเหล่านี้เกิดขึ้นในพื้นที่เมืองส่วนใหญ่ตลอดทั้งปี แต่ในบางช่วงของปี เช่น ฤดูหนาว หรือช่วงฟ้าปิด การถ่ายเทมลพิษขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเกิดขึ้นยากขึ้น ฝุ่นจึงคลุ้งอยู่ในระดับความสูงที่ใกล้ชิดกับบริเวณที่ใช้ชีวิตประจำวัน ในพื้นที่เมืองยังมีฝุ่นที่เกิดจากการก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม และยานพาหนะอยู่แล้ว แต่เมื่ออากาศเปิด มีการถ่ายเทดี ปัญหาเหล่านี้จึงจับต้องไม่ได้อย่างชัดเจน ดังนั้นในส่วนของสภาพอากาศจากฤดูกาล เป็นเรื่องที่บริหารจัดการได้ยาก แต่เราต้องมีทางออกในการจัดการกับฝุ่นที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันตลอดทั้งปี ดังนั้นจึงขอเสนอแนวทางในการจีดการฝุ่นเมือง 3 วิธี ได้แก่
- ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะใน กทม.ไม่ ไปพร้อมกับการเจรจาลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า
- การผลักดันการใช้รถระบบไฟฟ้า (รถอีวี)
- ส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานการลงทุนในอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าทั้งจากการลงทุนของต่างชาติ และภายในประเทศ
“ต้นเหตุของฝุ่นในเมือง หลักๆมาจากระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งควรแก้ไขได้ก่อนและทำได้ทันที รวมทั้งตรวจจับการปล่อยควันดำและโรงงานอุตสาหกรรมด้วย และระยะกลางต้องผลักดันการเข้าถึงรถยนต์สาธารณะได้โดยง่ายและราคาถูก ระยะยาวคือ สนับสนุนการผลิตรถอีวี ซึ่งในเรื่องนี้หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ผมเชื่อมั่นว่าเราสามารถเจรจาและผลักดัน สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนได้” นายชนินทร์ กล่าว
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวสรุปว่า
“วิกฤตฝุ่น PM 2.5 เพื่อไทยมีทางแก้ไข” พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดที่จะผลักดันเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทยแก้วิกฤต PM 2.5 ใน 6 ด้านได้แก่
- ห้ามเผาป่า เผาไร่จริงจัง
- เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านและเอกชนไทย ห้ามเผาไร่จริงจัง
- เปลี่ยนรถเมล์ กทม.หลายพันคันเป็นรถไฟฟ้า โดยเร็วที่สุด
- เข้มรถปล่อยควัน โรงงานปล่อยมลพิษไซต์งานก่อสร้าง
- ทำไทยเป็นศูนย์ผลิตรถไฟฟ้า ดันราคาลง คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น
- ผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด