นางอนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบว่าเป็น 8 ปีที่ล้มเหลวในการแก้ปัญหาสังคม ทั้งความยากจน ปัญหาอาชญากรรม การพนัน ที่เลวร้ายที่สุดคือปัญหายาเสพติดเพิ่มมากขึ้น จากสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ที่มีนโยบายเอาจริงเอาจังกับปัญหายาเสพติด จนหาซื้อยากและมีราคาสูงตกเม็ดล่ะ 300 บาท แต่ปัจจุบันซื้อง่ายขายคล่องราคาต่อเม็ดบางพื้นที่ไม่ถึง10บาท หรือบางพื้นที่ 6 เม็ด 100 บาท

นอกจากนี้ทุกครั้งที่ลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร ผู้ปกครองเป็นห่วงปัญหายาเสพติดมากที่สุด เพราะทุกวันนี้เยาวชนในพื้นที่ติดยาเสพติดกันเป็นจำนวนมาก พัฒนาจากผู้เสพเป็นผู้ค้า ที่น่าเป็นห่วงคือมีการใช้เด็กนักเรียนเป็นคนส่งยาบ้ากันแล้ว เพราะหากให้เด็กทำ ความผิดก็จะน้อย จึงเป็นช่องโหว่ทางกฎหมายที่ขบวนการค้ายาใช้ประโยชน์ เมื่อเด็กติดยาบ้าและต้องหาเงินมาซื้อเสพ ส่งผลให้เกิดอาชาญากรรมตามมา ทั้งลักเล็กขโมยน้อย การโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ตามหอพักหรือที่พักอาศัย เกิดอาการหลอนยาบ้าทำร้ายคนในครอบครัว ก่ออาชญากรรมหนักขึ้นแม้กระทั่งปล้นทรัพย์ ปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากการไม่เอาจริงและการปล่อยปละละเลยในการปราบรามยาเสพติดของพลเอกประยุทธ์

นางอนุรักษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้นโยบายกัญชาเสรีส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับสังคมไทย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่สกลนคร ออกตรวจพื้นที่ พบกลุ่มเยาวชนอายุไม่ถึง 10 ขวบที่จับกลุ่มสูบกัญชากันแล้ว ทั้งนี้มาจากนโยบายที่หละหลวม ให้ชาวบ้านปลูกกัญชาโดยไร้มาตรการควบคุม จึงเป็นนโยบายที่ทำร้ายสังคมมากกว่าสร้างสรรค์

“ผลงานสุดอัปยศของพลเอกประยุทธ์คือการไม่เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามยาเสพติด จนก่อให้เกิดเหตุการณ์กราดยิงที่ศูนย์เด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 คน ครั้งนั้นพลเอกประยุทธ์ประกาศการปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ แต่พอผ่านไปรัฐบาลก็ลืมปัญหาตรงนี้ หากรัฐบาลยังแก้ไม่ตรงจุดรวมทั้งละเลยปัญหา แบบนี้ในอนาคตเหตุการณ์กราดยิงที่หนองบัวลำภูจะไม่ไช่เหตุการณ์สุดท้ายแน่นอน หากพลเอกประยุทธ์ทำไม่ได้หรือทำไม่เป็น ก็ลาออกไปดีกว่า อย่ามานั่งอยู่ในอำนาจทำร้ายสังคมไทยต่อไปเลย” นางอนุรักษ์ กล่าว