นายฉลาด ขามช่วง ส.ส.ร้อย เอ็ด พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด พบว่าพี่น้อง ประชาชนให้ความสนใจเข้ามารับฟังนโยบายและแนวทางการทำงานของพรรค เพื่อไทยเป็นจำนวนหลายหมื่นคน ทั้งนี้เพราะมั่นใจว่าภายใต้บริหารจัดการ ของพรรคเพื่อไทยจะสามารถพลิกฟื้นชีวิตพี่น้องประชาชนได้ดังเช่นในอดีต ที่เคยช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ดีที่ดีขึ้นมาแล้ว

ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรมีทั้งปลูกข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยาง ปาล์มน้ำมัน ดังนั้นจึงถือว่าเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ส่งผลให้มีพี่น้อง เกษตรกรมากที่สุด แต่ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไร้ความสามารถปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำทุกประเภท หนักสุดคือ ราคาข้าวเปลือกที่ 1 ตันไม่ถึง 7,500 บาท เกษตรกรขาดทุนมาตลอด 8 ปี

นายฉลาด กล่าวด้วยว่า ดังนั้นเกษตรกรจึงตั้งความหวังว่าพรรค เพื่อไทยจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตเกษตรกร รวมทั้งเชื่อมั่นนโยบายด้าน การเกษตรของพรรคเพื่อไทยจะช่วยพี่น้องเกษตรกรได้อย่างแน่นอน เพราะทีมงานของพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในการพัฒนาและยกระดับราคา สินค้าเกษตร รวมทั้งมั่นใจว่านวัตกรรมใหม่ๆที่พรรคจะนำมาใช้ จะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

“นโยบายของพรรคเพื่อไทย ต่างจากนโยบายของพลเอกประยุทธ์ เพราะพรรคเพื่อไทยยึดเกษตรกรเป็นศูนย์กลาง ในขณะที่พลเอกประยุทธ์ ยึดนายทุนเจ้าสัวเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นที่ผ่านมาความเหลื่อมล้ำจึงขยายวงมากขึ้น 8 ปีที่เกษตรกรทนทุกข์กับนโยบายขายฝันของพลเอกประยุทธ์ ดังนั้นการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น เชื่อว่าการใช้เงินซื้อเสียงจะไม่ประสบความสำร็จ เพราะครั้งนี้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศจะเลือกเพื่ออนาคตของตัวเอง นอกจากนี้การอยู่ภายใต้รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชน จึงเป็นบทเรียนที่สำคัญของเกษตรกร เพราะรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชน ย่อมไม่ให้ความสำคัญกับประชาชนอย่างแน่นอน” นายฉลาด กล่าว